ศูนย์ข่าวภูเก็ต-นักธุรกิจอสังหาฯภูเก็ตชี้แม้มีการสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง แต่เชื่อเหตุการณ์ยังคงไม่จบเพียงเท่านี้ พร้อมระบุถ้ารัฐบาลยังไม่สามารถที่จะจัดการกับผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังได้ การเมืองไทยก็ยากที่จะมีเสถียรภาพ
นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงการผลกระทบที่เกิดจากชุมนุมของกลุ่ม นปช. ว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้กระทบเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ได้เกิดผลกระทบในภาพรวมเป็นวงกว้าง เนื่องจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ และการใช้ความใจเย็นในการแก้ปัญหาของรัฐบาล แม้ว่าจะมีการชุมนุมจะมีการสลายไปแล้ว แต่เชื่อว่าเหตุการณ์คงไม่จบเพียงเท่านั้น
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงออกมาก่อเหตุนั้น ส่วนตัวคงไม่เรียกว่าเป็นผู้ชุมนุม เนื่องจากมีพฤติกรรมการใช้วิถีความรุนแรงในการเผาทำลายทรัพย์สินหรือการทำร้ายประชาชน หรือการทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นตราบใดที่รัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดการกับ นช.ในต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ชักโยงอยู่เบื้องหลังได้ และยังปล่อยให้มีบทบาทอยู่เช่นนี้ ก็เชื่อว่ายากที่การเมืองไทยจะมีเสถียรภาพได้ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ร้ายแรงกว่าภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการที่ยังมีนักการเมืองเลวๆ ปัญหาต่างๆ ก็ยากที่จะแก้ไข
นายธนันท์ ยังได้กล่าวถึงผลกระทบกับการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ว่า เนื่องจากยังอยู่ในช่วงวันหยุดและเหตุการณ์พึ่งจบลง จึงยังไม่สามารถที่จะประเมินสถานการณ์ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ก็คงจะต้องมีการประสานพุดคุยกับผู้ประกอบการ ในการที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เพราะในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่ซบเซามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มที่จะดีขึ้นเล็กน้อย แม้จะยังคงมีความตึงเครียดทางด้านการเงิน เพราะธนาคารมีความเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ ทั้งในส่วนของเจ้าของโครงการและผู้ซื้อรายย่อย แม้บางโครงการจะสามารถขายไปได้มากแล้ว แต่ประสบกับปัญหาไม่สามารถโอนได้ เพราะธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อซึ่งมีมากกว่า 30-40 %
นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงการผลกระทบที่เกิดจากชุมนุมของกลุ่ม นปช. ว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้กระทบเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ได้เกิดผลกระทบในภาพรวมเป็นวงกว้าง เนื่องจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ และการใช้ความใจเย็นในการแก้ปัญหาของรัฐบาล แม้ว่าจะมีการชุมนุมจะมีการสลายไปแล้ว แต่เชื่อว่าเหตุการณ์คงไม่จบเพียงเท่านั้น
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงออกมาก่อเหตุนั้น ส่วนตัวคงไม่เรียกว่าเป็นผู้ชุมนุม เนื่องจากมีพฤติกรรมการใช้วิถีความรุนแรงในการเผาทำลายทรัพย์สินหรือการทำร้ายประชาชน หรือการทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นตราบใดที่รัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดการกับ นช.ในต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ชักโยงอยู่เบื้องหลังได้ และยังปล่อยให้มีบทบาทอยู่เช่นนี้ ก็เชื่อว่ายากที่การเมืองไทยจะมีเสถียรภาพได้ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ร้ายแรงกว่าภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการที่ยังมีนักการเมืองเลวๆ ปัญหาต่างๆ ก็ยากที่จะแก้ไข
นายธนันท์ ยังได้กล่าวถึงผลกระทบกับการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ว่า เนื่องจากยังอยู่ในช่วงวันหยุดและเหตุการณ์พึ่งจบลง จึงยังไม่สามารถที่จะประเมินสถานการณ์ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ก็คงจะต้องมีการประสานพุดคุยกับผู้ประกอบการ ในการที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เพราะในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่ซบเซามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มที่จะดีขึ้นเล็กน้อย แม้จะยังคงมีความตึงเครียดทางด้านการเงิน เพราะธนาคารมีความเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ ทั้งในส่วนของเจ้าของโครงการและผู้ซื้อรายย่อย แม้บางโครงการจะสามารถขายไปได้มากแล้ว แต่ประสบกับปัญหาไม่สามารถโอนได้ เพราะธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อซึ่งมีมากกว่า 30-40 %