กระบี่ - ตำรวจกระบี่เข้มช่วงสงกรานต์ “จับปรับแจก” ขับไม่สวมหมวก ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังร่วมในพิธีเปิดศูนย์ป้องกันและลัดอุบัติเหตุทางถนน และกิจกรรมการขับขี่ปลอดภัยเปิดไฟใส่หมวกนิรภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งด่านตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกก็จะถูกตำรวจจับกุมทันที และเสียค่าปรับ 500 บาท จากนั้นก็จะแจกหมวกกันน็อคให้ 1 ใบ
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 10-16 เมษายน 2552 มีการรณรงค์เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่จึงได้มีโครงการ “จับปรับแจก” ในกรณีที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกก็จะจับกุมโดยปรับในอัตราสูงสุดคือ 500 บาท และแจกหมวกกันน็อกให้ 1 ใบ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเข้มขนขึ้นในช่วง 7 วันระวังอันตราย เพื่อผู้ขับขี่รถจะได้สวมใส่หมวกในคราวต่อไป และจะได้ไม่ถูกจับกุมอีก
ทั้งนี้ จากสถิติการรณรงค์มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. พบว่ามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากขับขี่รถจักรยายนต์แล้วไม่สวมหมวกมีอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าการรณรงค์ตามโครงการดังกล่าวก็จะทำให้ลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงไปได้
พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังร่วมในพิธีเปิดศูนย์ป้องกันและลัดอุบัติเหตุทางถนน และกิจกรรมการขับขี่ปลอดภัยเปิดไฟใส่หมวกนิรภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งด่านตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกก็จะถูกตำรวจจับกุมทันที และเสียค่าปรับ 500 บาท จากนั้นก็จะแจกหมวกกันน็อคให้ 1 ใบ
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 10-16 เมษายน 2552 มีการรณรงค์เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่จึงได้มีโครงการ “จับปรับแจก” ในกรณีที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกก็จะจับกุมโดยปรับในอัตราสูงสุดคือ 500 บาท และแจกหมวกกันน็อกให้ 1 ใบ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเข้มขนขึ้นในช่วง 7 วันระวังอันตราย เพื่อผู้ขับขี่รถจะได้สวมใส่หมวกในคราวต่อไป และจะได้ไม่ถูกจับกุมอีก
ทั้งนี้ จากสถิติการรณรงค์มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. พบว่ามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากขับขี่รถจักรยายนต์แล้วไม่สวมหมวกมีอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าการรณรงค์ตามโครงการดังกล่าวก็จะทำให้ลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงไปได้