สุราษฎร์ธานี - “ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี” สั่งลุยจับกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกพื้นที่ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเล หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปะละเลย ให้มีการบุกรุกใช้เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ปักแนวเขตจับจองพื้นที่เกือบ 2 พันไร่ มานานกว่า 3 เดือน พร้อมขู่หากไม่ดำเนินการเตรียมสั่งย้ายนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการที่ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สำนักงานขนส่งทางน้ำ และสำนักงานประมงจังหวัด เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการบุกรุกชายฝั่งทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อการทำลายทรัพยากรชายฝั่ง และวงจรชีวิตสัตว์น้ำ โดยตนมีคำสั่งให้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ลงไปดำเนินการจับกุมผู้บุกรุกชายฝั่งทะเล ในเขตพื้นที่ อ.พุนพิน และ อ.ท่าฉาง เป็นการด่วน เพราะปรากฏว่า มีกลุ่มนายทุนบุกรุกชายฝั่งทะเลเพื่อเลี้ยงหอยแครง ในพื้นที่ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยใช้เสาคอนกรีตไฟฟ้าแรงสูง ปักเขตการเลี้ยงในเชิงธุรกิจขนาดใหญ่นอกเขตพื้นที่ ที่กรมประมงกำหนด พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการจับกุมเห็นผลภายใน 7 วัน มิฉะนั้นสั่งย้ายนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ดำเนินการจัดระเบียบการเพาะเลี้ยงชายฝั่งใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.ดอนสัก และ อ.กาญจนดิษฐ์ ให้อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการกำหนดโดยการใช้เครื่องมือ GPS หากมีการรุกล้ำจะต้องเพิกถอนอาชญาบัตร หรือไม่ต่อใบอนุญาตในการทำประมงชายฝั่ง นอกจากนั้นจะต้องดำเนินการกับผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาด ทั้งทางคดีอาญา และคดีแพ่ง
ตลอดจนห้ามมิให้สวมสิทธิ์ชาวประมงพื้นบ้านในรูปแบบตัวแทนหรือนอมินี มาเช่าพื้นที่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้ ในการจัดสรรพื้นที่ชายฝั่งทะเล เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งนั้น จังหวัดจะเน้นจัดสรรให้เฉพาะประชาชนในพื้นที่ตามสิทธิชุมชนรายละไม่เกิน 10 ไร่เท่านั้น.