xs
xsm
sm
md
lg

วาตภัยถล่มตรังเสียหาย 3 อำเภอ สวนยางพังราว 2 พันไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง – วาตภัยถล่มตรังหนักที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้บ้านเรือนของประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายทั้งหมด 6 ตำบล จาก 3 อำเภอ โดยบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ประมาณ 700 ครัวเรือน สวนยางพารา ประมาณ 2,000 ไร่ เบื้องต้น อบต.ในบางแห่งได้จ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนเบื้องต้น 1,000 บาท

วันนี้ (3 เม.ย.) จากกรณีที่เกิดเหตุพายุพัดหมุน ในหลายพื้นที่จังหวัดตรัง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน เช่น ไม้ผล สวนยางพารา ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และเหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้ต้นไม้โค่นล้มปิดทับเส้นทางถนน เชื่อมระหว่างตำบลและอำเภอหลายเส้นทาง จนรถเกือบทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และต้นไม้โค่นล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูง และ แรงต่ำ ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงผลการสรุปความเสียเบื้องต้น ว่า มีบ้านเรือนของประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะสวนยางพารา ได้รับความเสียหายทั้งหมด 6 ตำบล จาก 3 อำเภอ โดยบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ประมาณ 700 ครัวเรือน สวนยางพารา ประมาณ 2,000 ไร่ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย อำเภอปะเหลียน 1 ตำบล 15 หมู่บ้าน คือ ตำบลปะเหลียน ได้รับความเสียหายหนัก จำนวน 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายกว่า 300 ครัวเรือน สวนยางพารา จำนวน 500 ไร่

อำเภอย่านตาขาว ได้รับความเสียหาย 2 ตำบล คือ ตำบลนาชุมเห็ด จำนวน 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 80 หลังคาเรือน สวนยางพาราประมาณ 500 ไร่ และ ตำบลโพรงจระเข้ จำนวน 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน สวนยางพารากว่า 300 ไร่ และ อำเภอนาโยง ได้รับวามเสียหาย 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลช่อง จำนวน 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายประมาณ 80 หลังคาเรือน ต้นยางพารากว่า 1,000 ต้น

นอกจากนั้น ยังมีอาสินที่เป็นไม้ผลและไม้เศรษฐกิจ ที่ชาวบ้านปลูกไว้อีกจำนวนมาก ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถประมาณค่าความเสียหายได้ ตำบลโคกสะบ้า จำนวน 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 20 หลัง และตำบลนาข้าวเสีย บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 10 หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ในแต่ละพื้นที่ เจ้าหน้าที่จากอำเภอ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรประจำอำเภอ ได้เร่งออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยผู้ประสบภัยสามารถเดินทางไปแจ้งความเสียหายได้ ณ ที่ทำการศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่

สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ประชาชนได้เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็ได้เร่งซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้กับประชาชน เพราะยังคงมีอีกหลายจุด ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เนื่องจากยังไม่มีความปลอดภัยหากปล่อยกระแสไฟฟ้าออกไป และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างเร่งแก้ไข เพราะสภาพอากาศยังคงมืดครึ้ม และเกิดฝนตกโปรยลงมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม อบต.บางแห่ง ได้มีการอนุมัติงบประมาณอุดหนุนศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้านไว้แล้ว ซึ่งหากราษฎรได้รับความเดือนร้อนจากภัยต่างๆ จะได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นครอบครัวละ 1,000 บาท โดยทุก อบต.มีงบฉุกเฉินที่สามารถเบิกจ่ายช่วยเหลือราษฎรได้ทันที และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ตำบลช่อง อำเภอนาโยง ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นวาตภัยที่หนักที่สุดในรอบ 50 ปี

คุณยายพิ่ม เกื้อด้วง อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 1 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการที่ยังมีความตระหนก ว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุขนาดนี้ ยังไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ในช่วงที่ลมพัดมามันหมุนๆ แบบพลิกไปพลิกมา จนต้นไม้หักโค่นลงมาอย่างแรง จนเป็นอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก ในช่วงที่ลมพัดหมุนทุคนไม่กล้าออกไปยืนในที่กลางแจ้ง และต้องหาที่หลบเพื่อไปอยู่ในที่ปลอดภัยจนรอดมาได้



กำลังโหลดความคิดเห็น