ชุมพร-จังหวัดชุมพร รวมกับทหาร และชุดเฉพาะกิจป้องกันรักษาป่า ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าไม้ ตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า เขตจังหวัดชุมพร พบมีนายทุนบุกรุก และชาวบ้าน ยึดครองเป็นบริเวณกว้างเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ปลูกยางพารา-ปาล์มน้ำมัน หวั่นส่งผลกระทบด้านความมั่นคง
วันนี้ (26 มี.ค.) นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ทหารค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดทหารบกชุมพร เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติเสด็จในกรมหลวงชุมพร และชุดเฉพาะกิจป้องกันรักษาป่าไม้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ด้านทิศใต้ และทิศเหนือ บริเวณพื้นที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นแนวชายแดนไทย-พม่า
ภายหลังสืบทราบว่า มีกลุ่มนายทุน และชาวบ้านเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อนำพื้นที่มาทำการเกษตรจำนวนมาก และมีรายงานว่า กลุ่มนายทุนยังได้บุกรุกแผ้วถางยึดครองเข้าไปในเขตพื้นที่ป่าของประเทศเพื่อนบ้าน จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ดังกล่าวด้วย
การบินสำรวจเริ่มตั้งแต่บริเวณคลองกระนัย คลองทรายอ่อน หมู่ 17 ถึงหมู่ 20 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า ตามแนวตะเข็บรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า พบว่า มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง ปลูกยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และบางส่วนอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เตรียมเพาะปลูก เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
ผลจากการบินสำรวจของคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ปรากฏว่า การบุกรุกแผ้วถางป่าตามแนวตะเข็บชายแดน มีบางส่วนบุกรุกแผ้วถางเข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน แต่พื้นที่บุกรุกส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งของประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพม่ารับทราบข้อมูล และมีการเดินทางเข้าไปตรวจสอบแล้วเช่นกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชุดสำรวจฝ่ายพม่าทราบแล้วว่า ทางการไทยไม่ได้สนับสนุนให้ราษฎรไทยเข้าไปบุกรุกทำลายป่าในฝั่งพม่า อีกทั้งได้ห้ามปรามตักเตือนแล้ว
ราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างก็ทราบดี และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีราษฎรไทยบางส่วนเล็ดลอดเข้าไป โดยเฉพาะกลุ่มนายทุนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เข้าไปจับจอง และซื้อขายที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จึงประสานขอให้ทางการพม่าอย่าได้จับกุมราษฎรไทย ที่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายพม่าก็รับปากว่า จะไม่มีการจับกุมใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะใช้วิธีชี้แจงให้เข้าใจว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพม่า เนื่องจากไทย และพม่าเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน จากปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่มีการตรวจสอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บางกลุ่มเข้าไปรับผลประโยชน์จากกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น และมีการบินสำรวจตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เห็นสภาพการบุกรุกทำลายป่าแล้ว น่าตกใจเพราะไม่คิดว่า จะมีการบุกรุกทำลายป่าเป็นบริเวณกว้างขนาดนี้ ซึ่งการบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า ผู้กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือเป็นนโยบายอยู่แล้วว่า ใครที่กระทำความผิดในเรื่องการบุกรุกทำลายป่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จะต้องถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด แต่ประชาชนที่อยู่ในเขตป่าสามารถจะอยู่กับป่าได้ โดยที่ไม่ทำลายป่า เพราะหากมีการกระทำเช่นนี้มากๆ อนาคตจังหวัดชุมพร จะเกิดปัญหาใหญ่หลวง ทั้งฝนแล้ง น้ำท่วม เป็นมหันตภัยร้าย อีกทั้งยังได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติด้วย
ขณะนี้สั่งการให้สนธิกำลังหน่วยงานป้องกันปราบปราม เข้าไปดำเนินการกับผู้กระทำความผิดที่ลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า และยึดพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุกยึดครองกลับคืนมาเป็นของรัฐ พร้อมทั้งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนในโอกาสต่อไป
วันนี้ (26 มี.ค.) นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ทหารค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดทหารบกชุมพร เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติเสด็จในกรมหลวงชุมพร และชุดเฉพาะกิจป้องกันรักษาป่าไม้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ด้านทิศใต้ และทิศเหนือ บริเวณพื้นที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นแนวชายแดนไทย-พม่า
ภายหลังสืบทราบว่า มีกลุ่มนายทุน และชาวบ้านเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อนำพื้นที่มาทำการเกษตรจำนวนมาก และมีรายงานว่า กลุ่มนายทุนยังได้บุกรุกแผ้วถางยึดครองเข้าไปในเขตพื้นที่ป่าของประเทศเพื่อนบ้าน จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ดังกล่าวด้วย
การบินสำรวจเริ่มตั้งแต่บริเวณคลองกระนัย คลองทรายอ่อน หมู่ 17 ถึงหมู่ 20 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า ตามแนวตะเข็บรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า พบว่า มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง ปลูกยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และบางส่วนอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เตรียมเพาะปลูก เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
ผลจากการบินสำรวจของคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ปรากฏว่า การบุกรุกแผ้วถางป่าตามแนวตะเข็บชายแดน มีบางส่วนบุกรุกแผ้วถางเข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน แต่พื้นที่บุกรุกส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งของประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพม่ารับทราบข้อมูล และมีการเดินทางเข้าไปตรวจสอบแล้วเช่นกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชุดสำรวจฝ่ายพม่าทราบแล้วว่า ทางการไทยไม่ได้สนับสนุนให้ราษฎรไทยเข้าไปบุกรุกทำลายป่าในฝั่งพม่า อีกทั้งได้ห้ามปรามตักเตือนแล้ว
ราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างก็ทราบดี และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีราษฎรไทยบางส่วนเล็ดลอดเข้าไป โดยเฉพาะกลุ่มนายทุนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เข้าไปจับจอง และซื้อขายที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จึงประสานขอให้ทางการพม่าอย่าได้จับกุมราษฎรไทย ที่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายพม่าก็รับปากว่า จะไม่มีการจับกุมใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะใช้วิธีชี้แจงให้เข้าใจว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพม่า เนื่องจากไทย และพม่าเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน จากปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่มีการตรวจสอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บางกลุ่มเข้าไปรับผลประโยชน์จากกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น และมีการบินสำรวจตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เห็นสภาพการบุกรุกทำลายป่าแล้ว น่าตกใจเพราะไม่คิดว่า จะมีการบุกรุกทำลายป่าเป็นบริเวณกว้างขนาดนี้ ซึ่งการบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า ผู้กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือเป็นนโยบายอยู่แล้วว่า ใครที่กระทำความผิดในเรื่องการบุกรุกทำลายป่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จะต้องถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด แต่ประชาชนที่อยู่ในเขตป่าสามารถจะอยู่กับป่าได้ โดยที่ไม่ทำลายป่า เพราะหากมีการกระทำเช่นนี้มากๆ อนาคตจังหวัดชุมพร จะเกิดปัญหาใหญ่หลวง ทั้งฝนแล้ง น้ำท่วม เป็นมหันตภัยร้าย อีกทั้งยังได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติด้วย
ขณะนี้สั่งการให้สนธิกำลังหน่วยงานป้องกันปราบปราม เข้าไปดำเนินการกับผู้กระทำความผิดที่ลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า และยึดพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุกยึดครองกลับคืนมาเป็นของรัฐ พร้อมทั้งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนในโอกาสต่อไป
