ตรัง – ประชาชนจังหวัดตรัง เดินทางไปรับเช็คช่วยชาติ กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่จะนำเช็คไปแลกเป็นเงินสด ส่วนการนำเช็คไปใช้กับสินค้าที่มีการเพิ่มมูลค่านั้น ผู้ประกันตนส่วนใหญ่มองว่าอาจจะได้สิ่งของที่ไม่จำเป็น
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครตรัง นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวดัตรัง เป็นประธานในการจ่ายเช็คช่วยชาติ จำนวน 2,000 บาท เป็นวันแรก ให้แก่ผู้ประกันตนในมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน และบุคลากรภาครัฐ ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดตรัง มีผู้ประกันตนที่ผ่านสิทธิ และได้รับเช็คประมาณ 30,000 คน ซึ่งในงวดแรกมีผู้ประกันตนที่จะได้รับเช็ค จำนวน 27,649 คน หรือประมาณ 90% ของผู้มีสิทธิได้รับเช็คทั้งหมด
สำหรับบรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยความคึกคัก และมีผู้ประกันตนมารอรับเช็คในวันแรกกันเป็นจำนวนมาก จนแน่นตัวอาคารอเนกประสงค์เทศบาลนครตรัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมาตั้งแต่เวลา 08.00 น.เพื่อมาตรวจสอบลำดับเลขที่ก่อนเข้าแถวรับเช็ค โดยช่วงแรกสร้างความวุ่นวายแก่ผู้ประกันตนบางรายที่ไม่ได้มีการจดจำลำดับเลขที่ของตนเอง
และบางรายไม่ต้องการรอเข้าคิวจึงขอเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่าขอส่งตัวแทนมารับได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะต้องให้เจ้าของเช็คมารับด้วยตนเอง พร้อมนำบัตรประจำตัวตัวจริงมาด้วย ทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง และสามารถดำเนินการจ่ายเช็คได้ตามลำดับขั้นตอน โดยไม่มีความติดขัดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ซึ่งดูแลรับผิดชอบในการจ่ายเช็คช่วยชาติให้แก่ผู้ประกันตน ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง อำเภอปะเหลียน อำเภอรัษฎา อำเภอหาดสำราญ อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง สำหรับพื้นที่อื่นได้มีการทำงานแบบร่วมบูรณาการ โดยมอบหมายให้สำนักงานแรงงานจังหวัดตรัง ดูแลรับผิดชอบจ่ายเช็คให้แก่ผู้ประกันตนในพื้นที่อำเภอห้วยยอด ศูนย์พัฒนาฝีมือและแรงงานจังหวัดตรัง ดูแลรับผิดชอบพื้นที่อำเภอกันตัง สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง รับผิดชอบพื้นที่อำเภอสิเกา และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง รับผิดชอบพื้นที่อำเภอย่านตาขาว
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ มาคอยให้บริการแก่ผู้ประกันที่มารับเช็ค และมีความประสงค์แลกเปลี่ยนเป็นเงินสดทันที จำนวน 2,000 บาท โดยที่ไม่ต้องรอผ่านธนาคาร ทำให้มีผู้ประกันตนจำนวนมากใช้บริการดังกล่าว
โดยผู้ประกันตนส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ต้องการนำเงินที่ได้จากการช่วยเหลือของรัฐบาล เก็บเป็นเงินสดเอาไว้ก่อน เพื่อรอการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น และส่วนใหญ่ระบุว่าต้องการเก็บเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูก ส่วนการนำเช็คไปใช้กับสินค้าที่มีการเพิ่มมูลค่านั้น ผู้ประกันตนส่วนใหญ่มองว่าอาจจะได้สิ่งของที่ไม่จำเป็น จึงควรเก็บเป็นเงินสดดีกว่า
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครตรัง นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวดัตรัง เป็นประธานในการจ่ายเช็คช่วยชาติ จำนวน 2,000 บาท เป็นวันแรก ให้แก่ผู้ประกันตนในมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน และบุคลากรภาครัฐ ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดตรัง มีผู้ประกันตนที่ผ่านสิทธิ และได้รับเช็คประมาณ 30,000 คน ซึ่งในงวดแรกมีผู้ประกันตนที่จะได้รับเช็ค จำนวน 27,649 คน หรือประมาณ 90% ของผู้มีสิทธิได้รับเช็คทั้งหมด
สำหรับบรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยความคึกคัก และมีผู้ประกันตนมารอรับเช็คในวันแรกกันเป็นจำนวนมาก จนแน่นตัวอาคารอเนกประสงค์เทศบาลนครตรัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมาตั้งแต่เวลา 08.00 น.เพื่อมาตรวจสอบลำดับเลขที่ก่อนเข้าแถวรับเช็ค โดยช่วงแรกสร้างความวุ่นวายแก่ผู้ประกันตนบางรายที่ไม่ได้มีการจดจำลำดับเลขที่ของตนเอง
และบางรายไม่ต้องการรอเข้าคิวจึงขอเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่าขอส่งตัวแทนมารับได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะต้องให้เจ้าของเช็คมารับด้วยตนเอง พร้อมนำบัตรประจำตัวตัวจริงมาด้วย ทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง และสามารถดำเนินการจ่ายเช็คได้ตามลำดับขั้นตอน โดยไม่มีความติดขัดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ซึ่งดูแลรับผิดชอบในการจ่ายเช็คช่วยชาติให้แก่ผู้ประกันตน ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง อำเภอปะเหลียน อำเภอรัษฎา อำเภอหาดสำราญ อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง สำหรับพื้นที่อื่นได้มีการทำงานแบบร่วมบูรณาการ โดยมอบหมายให้สำนักงานแรงงานจังหวัดตรัง ดูแลรับผิดชอบจ่ายเช็คให้แก่ผู้ประกันตนในพื้นที่อำเภอห้วยยอด ศูนย์พัฒนาฝีมือและแรงงานจังหวัดตรัง ดูแลรับผิดชอบพื้นที่อำเภอกันตัง สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง รับผิดชอบพื้นที่อำเภอสิเกา และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง รับผิดชอบพื้นที่อำเภอย่านตาขาว
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ มาคอยให้บริการแก่ผู้ประกันที่มารับเช็ค และมีความประสงค์แลกเปลี่ยนเป็นเงินสดทันที จำนวน 2,000 บาท โดยที่ไม่ต้องรอผ่านธนาคาร ทำให้มีผู้ประกันตนจำนวนมากใช้บริการดังกล่าว
โดยผู้ประกันตนส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ต้องการนำเงินที่ได้จากการช่วยเหลือของรัฐบาล เก็บเป็นเงินสดเอาไว้ก่อน เพื่อรอการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น และส่วนใหญ่ระบุว่าต้องการเก็บเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูก ส่วนการนำเช็คไปใช้กับสินค้าที่มีการเพิ่มมูลค่านั้น ผู้ประกันตนส่วนใหญ่มองว่าอาจจะได้สิ่งของที่ไม่จำเป็น จึงควรเก็บเป็นเงินสดดีกว่า