ตรัง – อุตสาหกรรมจังหวัดตรังสั่งปิดโรงงาน สกัดน้ำมันปาล์มโอทาโก้ หลังลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลองกะลาเส จนส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น และปลาตายจำนวนมาก
วันนี้ (23 มี.ค.) ชุดปฎิบัติพิเศษรักษาความสงบภายในหมู่บ้านตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง นำโดย นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน กำนันตำบลกะลาเส พร้อมด้วย นายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ ปลัดอำเภอสิเกา ฝ่ายปกครองและรับผิดชอบงานอำนวยความเป็นธรรม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสิเกา และนายสงวน อั้นเต้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขตอำเภอสิเกา
เดินทางเข้าไปตรวจสอบลำคลองกะลาเส พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลกะลาเส ซึ่งเป็นลำคลองสายสำคัญของชาวตำบลกะลาเส ในการใช้น้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคมาอย่างยาวนาน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ คือ บริษัท โอทาโก้ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4046 สายควนกุน-สิเกา ได้ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลองกะลาเส จนส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น และปลาตายจำนวนมาก
ทั้งนี้ ต่อมาทางชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสิเกาก็ได้โทรศัพท์แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง นำโดยนายธนบูรณ์ เซ่งง่าย หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบน้ำส่งกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง รวมทั้งยังพบสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในคลองกะลาเสตายลงไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำ นำไปตรวจพิสูจน์เพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการโรงงานต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โรงงานโดยเฉพาะบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่พบว่าไม่ใช่ต้นตอของปัญหาในครั้งนี้ จากนั้นได้เดินสำรวจไปตามคลองกะลาเส จนกระทั่งเมื่อขึ้นไปถึงต้นน้ำก็พบว่า ต้นกำเนิดน้ำเสียเกิดจากลานเทปาล์มน้ำมัน ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ที่มีทลายปาล์มน้ำมันตั้งอยู่เป็นกองพะเนิน เพื่อรอการนำเข้าไปสกัดด้วยเครื่องจักร ประมาณ 30-40 ตัน
โดยลานเทดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณของโรงงาน และอยู่ห่างจากโรงจักรกลประมาณ 50 เมตร ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ตำบลกะลาเสได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังในลานเทปาล์มน้ำมัน ซึ่งต่อมาก็เกิดปัญหาหมักหมม และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำเสียดังกล่าวมีปริมาณมากจึงไหลลงสู่บริเวณด้านล่าง ผ่านทางระบายน้ำที่ทางโรงงานได้ทำไว้ และไหลลงสู่คลองกะลาเส จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำเน่าเสียตามไปด้วย อีกทั้งก่อนหน้านี้โรงงานดังกล่าวยังเคยลักลอบปล่อยน้ำเสียมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ปลารวมทั้งสัตว์น้ำต่างๆ ต้องตายลงไปแล้วจำนวนมาก
เนื่องจากขาดออกซิเจนในการหายใจ เมื่อเดือนกันยายน 2551 ทั้งๆ ที่คลองกะลาเส ถือเป็นลำคลองธรรมชาติสายสำคัญ ของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลกะลาเส และอำเภอสิเกา โดยเฉพาะการนำไปผลิตเป็นน้ำประปาใช้ดื่มกินกัน ซึ่งน้ำจากลำคลองดังกล่าวจะไหลไปลงทะเลอันดามัน ที่บ้านแหลมมะขาม ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา
นายเดชา เกื้อกูล อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าโรงงานโอทาโก้ ได้ปฏิบัติผิด พ.ร.บ.โรงงานจริง จึงได้ส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในการสั่งปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด จนกว่าจะดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศไปปิดไว้หน้าโรงงานแล้ว พร้อมทั้งส่งวิศวกรโรงงานลงไปตรวจสอบ เพื่อชี้แนวทางการปรับปรุงแก้ไขโรงงานทั้งหมด
โดยเฉพาะด้านงานบ่อบำบัดน้ำเสีย และเส้นทางการส่งผ่านน้ำเสียและสู่บ่อบำบัด นอกจากนั้น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ยังส่งเรื่องดังกล่าวดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.โรงงาน โดยการปล่อยน้ำเสียของเสียลงสู่ทางน้ำสาธารณะ ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 600,000 บาท จากนิติบุคคล 200,000 บาท และจากกรรมการบริหาร 2 คนๆ ละ 200,000 บาท
นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอสิเกา กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน พร้อมกับชาวบ้าน และผู้นำท้องที่แล้ว ก็ได้ทำรายงานเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้มีการสั่งปิดโรงงานทันที เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และเป็นสิ่งที่ทำลายจิตใจของชาวบ้านมากที่สุด
ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เองไม่ได้มีความต้องการให้โรงงานดังกล่าว ต้องย้ายออกจากพื้นที่ หรือปิดโรงงานอย่างถาวร เพียงแต่ต้องการให้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ โรงงาน ชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อม อยู่ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป โดยที่ไม่มีฝ่ายใดสร้างความเสียหาย หรือสร้างผลกระทบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
วันนี้ (23 มี.ค.) ชุดปฎิบัติพิเศษรักษาความสงบภายในหมู่บ้านตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง นำโดย นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน กำนันตำบลกะลาเส พร้อมด้วย นายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ ปลัดอำเภอสิเกา ฝ่ายปกครองและรับผิดชอบงานอำนวยความเป็นธรรม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสิเกา และนายสงวน อั้นเต้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขตอำเภอสิเกา
เดินทางเข้าไปตรวจสอบลำคลองกะลาเส พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลกะลาเส ซึ่งเป็นลำคลองสายสำคัญของชาวตำบลกะลาเส ในการใช้น้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคมาอย่างยาวนาน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ คือ บริษัท โอทาโก้ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4046 สายควนกุน-สิเกา ได้ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลองกะลาเส จนส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น และปลาตายจำนวนมาก
ทั้งนี้ ต่อมาทางชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสิเกาก็ได้โทรศัพท์แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง นำโดยนายธนบูรณ์ เซ่งง่าย หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบน้ำส่งกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง รวมทั้งยังพบสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในคลองกะลาเสตายลงไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำ นำไปตรวจพิสูจน์เพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการโรงงานต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โรงงานโดยเฉพาะบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่พบว่าไม่ใช่ต้นตอของปัญหาในครั้งนี้ จากนั้นได้เดินสำรวจไปตามคลองกะลาเส จนกระทั่งเมื่อขึ้นไปถึงต้นน้ำก็พบว่า ต้นกำเนิดน้ำเสียเกิดจากลานเทปาล์มน้ำมัน ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ที่มีทลายปาล์มน้ำมันตั้งอยู่เป็นกองพะเนิน เพื่อรอการนำเข้าไปสกัดด้วยเครื่องจักร ประมาณ 30-40 ตัน
โดยลานเทดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณของโรงงาน และอยู่ห่างจากโรงจักรกลประมาณ 50 เมตร ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ตำบลกะลาเสได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังในลานเทปาล์มน้ำมัน ซึ่งต่อมาก็เกิดปัญหาหมักหมม และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำเสียดังกล่าวมีปริมาณมากจึงไหลลงสู่บริเวณด้านล่าง ผ่านทางระบายน้ำที่ทางโรงงานได้ทำไว้ และไหลลงสู่คลองกะลาเส จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำเน่าเสียตามไปด้วย อีกทั้งก่อนหน้านี้โรงงานดังกล่าวยังเคยลักลอบปล่อยน้ำเสียมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ปลารวมทั้งสัตว์น้ำต่างๆ ต้องตายลงไปแล้วจำนวนมาก
เนื่องจากขาดออกซิเจนในการหายใจ เมื่อเดือนกันยายน 2551 ทั้งๆ ที่คลองกะลาเส ถือเป็นลำคลองธรรมชาติสายสำคัญ ของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลกะลาเส และอำเภอสิเกา โดยเฉพาะการนำไปผลิตเป็นน้ำประปาใช้ดื่มกินกัน ซึ่งน้ำจากลำคลองดังกล่าวจะไหลไปลงทะเลอันดามัน ที่บ้านแหลมมะขาม ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา
นายเดชา เกื้อกูล อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าโรงงานโอทาโก้ ได้ปฏิบัติผิด พ.ร.บ.โรงงานจริง จึงได้ส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในการสั่งปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด จนกว่าจะดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศไปปิดไว้หน้าโรงงานแล้ว พร้อมทั้งส่งวิศวกรโรงงานลงไปตรวจสอบ เพื่อชี้แนวทางการปรับปรุงแก้ไขโรงงานทั้งหมด
โดยเฉพาะด้านงานบ่อบำบัดน้ำเสีย และเส้นทางการส่งผ่านน้ำเสียและสู่บ่อบำบัด นอกจากนั้น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ยังส่งเรื่องดังกล่าวดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.โรงงาน โดยการปล่อยน้ำเสียของเสียลงสู่ทางน้ำสาธารณะ ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 600,000 บาท จากนิติบุคคล 200,000 บาท และจากกรรมการบริหาร 2 คนๆ ละ 200,000 บาท
นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอสิเกา กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน พร้อมกับชาวบ้าน และผู้นำท้องที่แล้ว ก็ได้ทำรายงานเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้มีการสั่งปิดโรงงานทันที เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และเป็นสิ่งที่ทำลายจิตใจของชาวบ้านมากที่สุด
ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เองไม่ได้มีความต้องการให้โรงงานดังกล่าว ต้องย้ายออกจากพื้นที่ หรือปิดโรงงานอย่างถาวร เพียงแต่ต้องการให้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ โรงงาน ชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อม อยู่ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป โดยที่ไม่มีฝ่ายใดสร้างความเสียหาย หรือสร้างผลกระทบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น