ตรัง – หลังจากรัฐบาลมีนโยบายจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ อสม. ทั่วประเทศเดือนละ 600 บาท ทำให้ประชาชนในจังหวัดตรังเริ่มมีความสนใจเข้สมัครเป็น อสม. มากขึ้น สาธาณสุขจังหวัดตรังเชื่อว่า อาจจะมีความต้องการในเรื่องการเงิน เบื้องต้นค่าตอบแทนดังกล่าวจะจ่ายให้กับ อสม.รายเก่าเท่านั้น
นายธีระศักดิ์ มักคุ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมพัฒนาสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ อสม. หรืออาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านทั่วประเทศ เดือนละ 600 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 นั้น ยอมรับว่าในหลายพื้นที่ของจังหวัดตรัง ขณะนี้ เริ่มมีประชาชนให้ความสนใจในการเข้ามาทำงานเป็น อสม. ด้วยการสอบถาม หรือแจ้งความประสงค์กับศูนย์อนามัยในพื้นที่ หรือผู้ที่เป็น อสม.รายเก่า
ทั้งนี้ เชื่อว่าเนื่องจากประชาชนชาวตรังบางคน อาจจะมีความต้องการในเรื่องของเงินค่าตอบแทน ที่ทางรัฐบาลประกาศจะมอบให้แก่ผู้ที่เป็น อสม. ซึ่งสำหรับคนเหล่านั้น เงินจำนวน 600 บาท ถือว่ามีความหมายเป็นอย่างมาก แต่ตามหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ อสม. มีข้อกำหนดที่ชัดเจน ซึ่งในเบื้องต้นจะมีการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน ให้เฉพาะผู้เป็น อสม. รายเก่า ที่มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยในขณะนี้มีจำนวน อสม.ทั้งจังหวัดตรัง จำนวน 9,056 คน
นอกจากนั้น จังหวัดตรังยังมีกำหนดกฏเกณฑ์ของผู้ที่เป็น อสม. ไว้อย่างชัดเจนว่า จะต้องเข้ามาดูแลประชาชน 8-15 ครัวเรือน ต่อ อสม. 1 คน ส่วนการเปิดรับ อสม.ใหม่ จะต้องเริ่มจากการตรวจสอบฐานข้อมูลประชาชน เพื่อให้มีความสมดุลกับจำนวน อสม.ที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งโดยฐานข้อมูลถือว่ามีความเพียงพอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากศูนย์อนามัยหมู่บ้าน หรือศูนย์อนามัยของท้องถิ่นใด ลงไปทำการประเมินแล้ว พบว่าต้องการ อสม.ใหม่เพิ่มเติม ก็จะมีการเปิดรับอย่างเป็นทางการ โดยใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆ คือ จะต้องเป็นบุคคลที่มีจิตใจอาสา
ทั้งนี้ เนื่องจาก อสม.ถือเป็นบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลด้านสาธารณสุข เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ของตนเองมีสุขอนามัยที่ดีและถูกต้อง โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใด เพราะเป็นบุคคลที่มีจิตใจเพื่อส่วนรวม ขณะเดียวกัน ยังจะต้องเป็นผู้ที่อ่านออกเขียนได้ด้วย ดังนั้น เชื่อมั่นว่าผู้เป็น อสม.อยู่ในปัจจุบันนี้ ต่างก็ไม่ได้หวังค่าตอบแทนทั้งจากภาครัฐและจากประชาชน แต่เงินที่จะได้รับเดือนละ 600 บาท ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มขวัญกำลังในการทำงานจากทางรัฐบาลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่หลายๆ ฝ่ายมีความกังวลว่า เงินค่าตอบแทนดังกล่าวนี้จะไม่คุ้มค่า เพราะอาจมี อสม. บางคนทำงานไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่โดยหลักปฏิบัติตามความเป็นจริงแล้ว อสม.ทุกคนจะต้องมีการรายงานผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง แต่หากมีบุคคลลักษณะเข้ามาเพื่อหวังเงินค่าตอบแทนจริงๆ ตนเชื่อว่า อสม.เหล่านั้น จะถูกตัดสินจากสังคม และถูกพิจารณาตนเองออกไป เพราะการทำงานของ อสม.เป็นสิ่งที่สังคมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
