กระบี่ - นักท่องเที่ยวเกาะพีพี ผวา! แมงกะพรุนโผล่กลางน้ำ งดเล่นน้ำ หวั่นอันตรายถึงชีวิต
วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีนักท่องเที่ยวที่ที่ลงเล่นน้ำ บริเวณหน้าอ่าวต้นไทร เกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ต่างเข็ดขยาดไม่กล้าลงเล่นน้ำ เนื่องจากมีแมงกะพรุนไฟจำนวนมากลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และที่ชุกชุมมากที่สุด ได้แก่ ที่บริเวณระหว่างเกาะไผ่ และเกาะพีพีดอน นักท่องเที่ยวบางคนที่ลงไปเล่นน้ำทะเล และเกิดไปสัมผัสกับตัวแมงกะพรุน ทำให้มีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน บริเวณผิวหนังเป็นผื่นแดง จึงทำให้ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำที่บริเวณดังกล่าว
นายชิตณรงค์ หนักแน่น อายุ 38 ปี อาชีพขับเรือหางยาวรับส่งนักท่องเที่ยวที่หน้าหาดเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกลงมาเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็พบแมงกะพรุนดังกล่าวลอยขึ้นมาเป็นจำนวนมากที่บริเวณหน้าเกาะพีพี และระหว่างเกาะไผ่กับพีพีดอน ตัวของมันมีลักษณะเป็นวุ้นสีแดง จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน บริเวณที่มีน้ำใสจะเห็นได้ชัดเจน
เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่เดินลงไปในน้ำทะเล เพื่อขึ้นเรือบังเอิญเท้าไปสัมผัสกับตัวแมงกะพรุนที่ลอยอยู่ในน้ำ และเมื่อใช้ดึงออกก็รู้สึกเกิดอาการแสบๆ คันๆ เป็นอย่างมาก จึงบอกให้นักท่องเที่ยวพยายามหลีกเลี่ยงแมงกะพรุนชนิดนี้
ด้าน นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจ.กระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีนักท่องเที่ยว หรือประชาชนถูกแมงกะพรุนไฟจนต้องเข้ารับการรักษาตัวแต่อย่างใด ซึ่งจะได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลเกาะพีพีอีกครั้ง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดใด และจัดอยู่ในประเภทที่ต้องเฝ้าระวังหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ก็มีการแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยว เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากไปสัมผัสแมงกะพรุนไฟ ให้ใช้ทรายที่ชายหาดนั้นถูบนผิวหนังเบาๆ หรือผ้าเช็ดตัวเช็ดเพื่อขัดเอาน้ำเมือกจากตัวแมงกะพรุน บนผิวหนังออก แล้วล้างด้วยน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำจืด และให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ผู้สื่อข่ายรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี 2550 เคยเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลงเล่นน้ำ และเกิดไปสัมผัสกับแมงกะพรุนเข้าอย่างจัง ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
ในครั้งนั้นสันนิษฐานว่า แมงกะพรุนที่เป็นตัวการที่ทำให้เสียชีวิต ก็คือ แมงกะพรุนกล่อง จนทำให้หลายฝ่ายในจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะสาธารณสุขจังหวัดได้หาวิธีการป้องกันอันตรายให้กับนักท่องเที่ยว เช่นให้ผู้ประกอบการนำยา หรือเวชภัณฑ์ไปทุกครั้งที่นำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวทางทะเล แต่หลังจากที่กระแสแมงกะพรุนเงียบหาย ก็ไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใดและมาเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงนี้
วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีนักท่องเที่ยวที่ที่ลงเล่นน้ำ บริเวณหน้าอ่าวต้นไทร เกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ต่างเข็ดขยาดไม่กล้าลงเล่นน้ำ เนื่องจากมีแมงกะพรุนไฟจำนวนมากลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และที่ชุกชุมมากที่สุด ได้แก่ ที่บริเวณระหว่างเกาะไผ่ และเกาะพีพีดอน นักท่องเที่ยวบางคนที่ลงไปเล่นน้ำทะเล และเกิดไปสัมผัสกับตัวแมงกะพรุน ทำให้มีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน บริเวณผิวหนังเป็นผื่นแดง จึงทำให้ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำที่บริเวณดังกล่าว
นายชิตณรงค์ หนักแน่น อายุ 38 ปี อาชีพขับเรือหางยาวรับส่งนักท่องเที่ยวที่หน้าหาดเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกลงมาเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็พบแมงกะพรุนดังกล่าวลอยขึ้นมาเป็นจำนวนมากที่บริเวณหน้าเกาะพีพี และระหว่างเกาะไผ่กับพีพีดอน ตัวของมันมีลักษณะเป็นวุ้นสีแดง จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน บริเวณที่มีน้ำใสจะเห็นได้ชัดเจน
เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่เดินลงไปในน้ำทะเล เพื่อขึ้นเรือบังเอิญเท้าไปสัมผัสกับตัวแมงกะพรุนที่ลอยอยู่ในน้ำ และเมื่อใช้ดึงออกก็รู้สึกเกิดอาการแสบๆ คันๆ เป็นอย่างมาก จึงบอกให้นักท่องเที่ยวพยายามหลีกเลี่ยงแมงกะพรุนชนิดนี้
ด้าน นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจ.กระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีนักท่องเที่ยว หรือประชาชนถูกแมงกะพรุนไฟจนต้องเข้ารับการรักษาตัวแต่อย่างใด ซึ่งจะได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลเกาะพีพีอีกครั้ง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดใด และจัดอยู่ในประเภทที่ต้องเฝ้าระวังหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ก็มีการแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยว เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากไปสัมผัสแมงกะพรุนไฟ ให้ใช้ทรายที่ชายหาดนั้นถูบนผิวหนังเบาๆ หรือผ้าเช็ดตัวเช็ดเพื่อขัดเอาน้ำเมือกจากตัวแมงกะพรุน บนผิวหนังออก แล้วล้างด้วยน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำจืด และให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ผู้สื่อข่ายรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี 2550 เคยเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลงเล่นน้ำ และเกิดไปสัมผัสกับแมงกะพรุนเข้าอย่างจัง ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
ในครั้งนั้นสันนิษฐานว่า แมงกะพรุนที่เป็นตัวการที่ทำให้เสียชีวิต ก็คือ แมงกะพรุนกล่อง จนทำให้หลายฝ่ายในจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะสาธารณสุขจังหวัดได้หาวิธีการป้องกันอันตรายให้กับนักท่องเที่ยว เช่นให้ผู้ประกอบการนำยา หรือเวชภัณฑ์ไปทุกครั้งที่นำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวทางทะเล แต่หลังจากที่กระแสแมงกะพรุนเงียบหาย ก็ไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใดและมาเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงนี้