สุราษฎร์ธานี - ตำรวจสุราษฎร์ธานี ร่วม 400 นาย บุกตรวจค้นหาอาวุธกลุ่มผู้ชุมนุมยึดสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน ที่อำเภอชัยบุรี หลังสายรายงานลักลอบนำอาวุธสงครามเตรียมถล่มนายทุนล้างแค้น พบอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก
วันนี้ (11 มี.ค.) พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด จำนวน 400 นาย เข้าทำการตรวจค้นหาอาวุธกลุ่มชาวบ้านชุมนุมเรียกร้องที่ทำกิน นามองค์กรพัฒนาที่ดิน เพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย ที่เข้าไปบุกยึดอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน ที่อยู่ระหว่างรอยต่อพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ และพื้นที่หมู่ 5 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี หลังเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มนายทุนจนฝ่ายชาวบ้านตาย 1 บาดเจ็บสาหัส 6 คน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 7 จุด กว่า 100 ครัวเรือน หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมลอบนำอาวุธสงครามเข้ามาเตรียมพร้อมถล่มกลุ่มนายทุน เพื่อเป็นการแก้แค้น หลังจากกลุ่มชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต 1 และบาดเจ็บสาหัส 6 ราย
ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ พบว่า มีประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก เข้าทำการปลูกบ้าน และสร้างเพิงพักในพื้นที่สวนปาล์ม เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบอาวุธปืนสั้น และอาวุธปืนยาว พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวผู้ครอบครองไปดำเนินคดี
ส่วนอาวุธสงครามตามสายรายงานไม่พบ คาดว่า ฝ่ายผู้ชุมนุมรู้ตัวล่วงหน้า จึงนำไปหลบซ่อนที่อื่น พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่า มีการติดตั้งเสาสัญญาณวิทยุสื่อสาร 1 ต้น แต่ไม่พบตัวเครื่อง จึงยึดไปเป็นหลักฐาน พร้อมเอกสารบัตรประจำตัวกลุ่มชาวบ้าน และเอกสารการรับจ่ายเงินของแกนนำจำนวนหนึ่ง และทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบางส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนตัวบ้านที่ปลูกถาวรกว่า 50 หลัง ขอให้บริษัทดำเนินการขออำนาจศาลคุ้มครองต่อไป
พร้อมกันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวเตือนประชาชนที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ว่า อย่าได้หลงเชื่อกลุ่มแกนนำว่า ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีการจัดสรรให้ประชาชน และดำเนินการจัดเก็บเงินเป็นค่าตอบแทน หากหลงเชื่อจะต้องเสียเงิน และเสียเวลา พร้อมทั้งถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ เนื่องจากหากจะมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนจริง จะต้องเป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และมีการลงชื่อขึ้นทะเบียนคนจนไว้ก่อนแล้วเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์
