ผู้นำศาสนายะลาไม่เห็นด้วยการเอาผิดกับเด็กกรณีปัญหาส่วยตากใบ

ยะลา – ผู้นำศาสนาจังหวัดยะลาไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาการรับส่วยของด่านตากใบ ด้วยการมาเอาผิดกับผู้ปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (10 มี.ค.) นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิ และอดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวถึงกรณีปัญหาส่วยตากใบ ที่ทางจังหวัดเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติว่า ตนเองไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ทางจังหวัดนราธิวาส สอบสวนเอาความผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งตนมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นบริเวณชายแดนทุกด่าน ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะที่ตากใบเพียงแห่งเดียว

เรื่องนี้ถ้าได้มีการสืบสาวเล่าเรื่องหาข้อมูลจะมีหลากหลายกรณี อย่างกรณีตากใบ แล้วความผิดกับเด็กนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะตนเห็นว่าต้องหาที่มาของกรณีปัญหา การให้บริการการเดินทางออกนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสะเดา, สุไหงโก-ลก, ตากใบ กรณีเดียวกันนี้ ชาวบ้านคุ้นมาเป็นสิบๆ ปี คุ้นกับการเดินทาง แต่มาช่วงหลังนี้การบริการต่างๆ มีความแปลกขึ้นมา ด้วยการเก็บเงินไม่เข้ารัฐ เป็นการเบียดบังรัฐ ตนมองว่าชาวบ้านเขาเต็มใจให้ เพื่อซื้อความรวดเร็ว ความสะดวก ในการเดินทาง

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ก็คงจะทำงานตามหน้าที่ตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ถ้าอย่างนี้ไปเอาความผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตามคำสั่งของผู้หลักผู้ใหญ่ตนว่าไม่ถูกต้อง ต้องมาแก้ที่ระบบ เพราะว่าคนที่ต้องเดินทางออกไปต่างประเทศมีอยู่หลายกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นการเดินทางไปเที่ยวเพื่อคลายความเครียดจากสถานการณ์ กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่ต้องเดินทางเพื่อภารกิจรายวันเป็นประจำตามบริเวณชายแดน กลุ่มที่สามคือกลุ่มที่ต้องเดินทางเพื่อประกอบธุรกิจใหญ่ในต่างประเทศ เกือบทุกเดือน ซึ่งทำรายได้เข้าประเทศมากมาย ถ้าไม่มีบริการที่ดี ปรับระบบการให้บริการใหม่จะกลายเป็นเงื่อนไขในการท่องเที่ยว ทำไมต้องมาแยกคนมารับบริการว่าคนในพื้นที่ราคาหนึ่ง และคนต่างพื้นที่อีกราคาหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นหักหามน้ำใจ การกอบโกยผลประโยชน์ ลักษณะอย่างนี้การท่องเที่ยวพังทลายหมด ยิ่งคน 3 จังหวัดที่มีอาการเครียดหนักจากสถานการณ์ ดังนั้น คนที่มาให้บริการในพื้นที่แห่งนี้ต้องเป็นคนที่มาให้บริการด้วยใจ มีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส รู้จักการให้บริการที่ประทับใจ แต่จากกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อความผิดเกิดขึ้น ทางผู้ใหญ่มาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ตนจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และขอต้านด้วย

นายนิมุ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนขอให้เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตากใบ เป็นกรณีตัวอย่าง กรณีศึกษา อยากให้ทุกหน่วยงานมองกลับมาที่ตัวเองว่าอะไรบ้างที่เราสร้างเงื่อนไขกับประชาชน หน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ให้บริการกับประชาชน ต้องมีความจริงจังในการให้บริการ ประชาชนมีความพอใจในวิธีการในขณะนี้ และที่ผ่านมาในหลายๆ ปี เขาไม่พอใจรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะพฤติกรรมคนของรัฐไม่บริการให้ความสะดวกประชาชน

“จุดนี้เป็นจุดหนึ่งเป็นการสร้างเงื่อนไข ทำให้ประชาชน หรือชาวบ้านทั่วไปไม่มองรัฐ และคนของรัฐ เพราะกระบวนการจุดนี้เอง เรื่องอย่างนี้ทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น ทำให้คนไม่พอใจคนของรัฐมากขึ้น เรื่องอย่างนี้เป็นการเบียดเบียนผลประโยชน์ของรัฐ เรื่องอย่างนี้เป็นการเอาเปรียบชาวบ้าน ตราบใดที่คนของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่เอาใจชาวบ้าน เอาใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง ตนมองว่าการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ล้มเหลวมาตลอด”