ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เดอะ รอยัล เพลส ภูเก็ต” สวนกระแสเศรษฐกิจ เปิดคอนโดฯอีก 1 ตึก มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท หลังตึกแรกขายเกลี้ยงในเวลารวดเร็ว เล็งขึ้นตึก 3 อีกเร็วๆนี้ พร้อมมองหาที่ดินลงทุนเพิ่มทั้งในเมืองและหาดป่าตอง
นายวิเชียร สุภัทรกุล ประธาน บริษัท วี.เอส.โฮม การ์เด้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการ เดอะ รอยัล เพลส ภูเก็ต เปิดเผยว่า โครงการเดอะ รอยัล ภูเก็ต ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกโลตัส ถ.เฉลิมพระเกียรติ (บายพาส) อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีเนื้อที่โครงการทั้งสิ้น 18 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็นคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิค ทั้งหมด 400 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาไปแล้วบางส่วน ทั้งอาคารพาณิชย์จำนวน 59 ยูนิต ขายได้ทั้งหมดแล้ว โฮมออฟฟิคขายไปแล้ว 17 ยูนิต และกำลังจะเปิดขายใหม่อีก 8 ยูนิต พร้อมด้วยคอนโดมิเนียมตึกแรก 150 ยูนิต ขายได้ทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 90% ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตกแต่งภายใน คาดว่าจะโอนและให้ลูกค้าเข้าอยู่ได้ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้
จากการที่โครงการฯได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวภูเก็ต โดยเฉพาะในส่วนของคอนโดมิเนียม ทางบริษัทจึงได้เปิดการลงทุนใหม่อีก 1 ตึก มีทั้งหมด 102 ยูนิต ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มีนาคม 2552 นี้ พร้อมทั้งการจัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนโครงการจนประสบความสำเร็จอย่างดี โดยแบ่งขนาดของห้องออกเป็นขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 30 ตร.ม.แบบสตูดิโฮ 39 ตร.ม. 43 ตร.ม.เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พร้อมห้องรับแขก และแบบสองห้องนอน ที่มีให้เลือกพื้นที่ 73 ตร.ม.และ 84 ตร.ม. มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ระเบียงแยกส่วน ห้องแต่งตัว ฯลฯ
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อาคารสโมสร ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย มินิมาร์ท ห้องอาหาร โทรศัพท์สายตรงทุกห้อง ลิฟท์โดยสาร ใช้ระบบคีย์การ์ด และยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติในภูเก็ต ที่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับบีขึ้นไป
นายวิเชียร เปิดเผยถึงการตัดสินในเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 ตึก ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ว่า การเปิดขายคอนโดฯอีก 1 หนึ่งในช่วงนี้ถือว่าเป็นการสวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อมั่นว่าโครงการจะได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวภูเก็ตเหมือนตึกแรก เพราะโดยศักยภาพของภูเก็ตถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้ แต่เชื่อภูเก็ตได้รับผลกระทบไม่มาก และผลกระทบที่เกิดขึ้นจะกลับมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว จากศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ประกอบกับโครงการเองก็ตั้งอยู่ในทำเลที่ศักยภาพมากและสินค้ารวมถึงราคาของโครงการมีความโดดเด่น จึงไม่หนักใจในการทำตลาดในช่วงนี้มากนัก
นายวิเชียร ยังเปิดเผยถึงการลงทุนในตึกที่ 3 ซึ่งตั้งไว้ที่ 160 ยูนิต ว่า จะลงทุนเพิ่มหลังจากที่ตึกสองได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และยังได้มองหาที่ดินทั้งสิ้นตัวเมืองภูเก็ตและหาดป่าตองที่จะลงทุนในส่วนของอาคารพาณิชย์และคอนโดฯ อีกในอนาคตอันใกล้นี้