ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กยส.ดึง อปท.ร่วมเผยแพร่ข้อมูลการกู้ยืมและการชำระหนี้ เตือนผู้กู้ที่ค้างชำระหนี้ 5 งวดเข้าร่วมไกล่เกลี่ยก่อนถูกฟ้อง
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเสริมเกียรติ ทัศนสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฝ่ายปฏิบัติการ หรือ กยศ.เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สงขลา เพื่อขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาล และอบต.ให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเงื่อนไขการกู้ยืมและการชำระหนี้กองทุน และประชาสัมพันธ์โครงการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ค้างชำระ 5 งวดให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นได้รับทราบอย่างทั่วถึง
ในส่วนของ จ.สงขลา ทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ร่วมกับศาลแขวงสงขลา และสำนักระงับข้อพิพาท จัดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยื่มเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดีในวันที่ 6-9 มีนาคมนี้ ที่ศาลแขวงสงขลา เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ 5 งวดขึ้นไปหรือระหว่างปี 2542-2547 ที่มีอยู่กว่า 2,927 ราย โดยให้มาเข้าร่วมไกล้เกลี่ยก่อนฟ้องคดีและทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
ทั้งนี้ หากผู้กู้ยังเพิกเฉยและไม่มาติดต่อแสดงตนหรือเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทางกองทุนฯจำเป็นต้องส่งรายชื่อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในปี 2552 ซึ่งหากถูกดำเนินคดีแล้ว จะต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมศาล และเสียเวลาเป็นอย่างมาก
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเสริมเกียรติ ทัศนสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฝ่ายปฏิบัติการ หรือ กยศ.เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สงขลา เพื่อขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาล และอบต.ให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเงื่อนไขการกู้ยืมและการชำระหนี้กองทุน และประชาสัมพันธ์โครงการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ค้างชำระ 5 งวดให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นได้รับทราบอย่างทั่วถึง
ในส่วนของ จ.สงขลา ทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ร่วมกับศาลแขวงสงขลา และสำนักระงับข้อพิพาท จัดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยื่มเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดีในวันที่ 6-9 มีนาคมนี้ ที่ศาลแขวงสงขลา เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ 5 งวดขึ้นไปหรือระหว่างปี 2542-2547 ที่มีอยู่กว่า 2,927 ราย โดยให้มาเข้าร่วมไกล้เกลี่ยก่อนฟ้องคดีและทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
ทั้งนี้ หากผู้กู้ยังเพิกเฉยและไม่มาติดต่อแสดงตนหรือเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทางกองทุนฯจำเป็นต้องส่งรายชื่อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในปี 2552 ซึ่งหากถูกดำเนินคดีแล้ว จะต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมศาล และเสียเวลาเป็นอย่างมาก