นครศรีธรรมราช – กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าตลาดสดคูขวาง เทศบาลนครนครศรีธรรมราช กว่า 100 คน ปิดถนนราชดำเนิน หน้าจวนผู้ว่าฯ ประท้วงต้านการรื้อถอนตลาดสด ยื้อไม่ยอมย้าย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีกลุ่มประชาชน อ้างว่า เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดสดคูขวาง ซึ่งเป็นตลาดสดในความดูแลของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ราว 100 คนเศษ นำโดย นางพิมพ์ประไพ หนูทอง แกนนำชมรมพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการตลาดสำเทศบาลคูขวาง ได้รวมตัวกันประท้วงด้วยการใช้รถยนต์และยางรถยนต์เก่าปิดถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นถนนสายหลักของตัวเมืองนครนครศรีธรรมราช ช่วงบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ส่งผลให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวถูกปิดตายโดยสิ้นเชิงจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีนายพิทักษ์ บริพิตร ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจารุมัย นพรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม กำลัง อส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จำนวนหนึ่งเข้ามาดูแลความเรียบร้อย ซึ่งผู้ชุมนุมได้ปราศรัยบนรถยนต์ด่าทอเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้สื่อข่าวตลอดเวลา
สำหรับมูลเหตุในการประท้วงดังกล่าวนั้นเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้มีโครงการก่อสร้างอาคารตลาดสดเทศบาลหลังใหม่เป็นอาคาร 2 ชั้นด้วยงบประมาณ 142 ล้านบาท แทนอาคารหลังเก่าที่มีอายุกว่า 30 ปี และมีปัญหาในเรื่องของสุขอนามัย ระบบระบายน้ำ หลายจุดเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคทั้งจากเศษสินค้าสดชนิดต่างๆ รวมทั้งเป็นที่อาศัยของสัตว์พาหะนำโรคเช่นหนูและแมลงสาบ โดยปัญหาทั้งหมดนั้นขัดต่อกฎกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยตลาดถูกสุขลักษณะ 2551
และเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้กำหนดที่จะรื้อถอนอาคารตลาดสดหลังเก่าในวันที่ 1 มี.ค.52 โดยที่ได้มีการก่อสร้างตลาดสดชั่วคราวซึ่งอยู่ห่างจากตลาดสดเก่าเพียงไม่ถึง 300 เมตรรองรับพ่อค้าแม่ค้าชั่วคราว โดยที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าโดยการสร้างตลาดชั่วคราวรองรับ รวมทั้งบริการขนย้ายทรัพย์สิน และสร้างแผงจำหน่ายสินค้าให้อย่างเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม นางพิมพ์ประไพ หนูทอง แกนนำชมรมพ่อค้าแม่ค้าให้เหตุผลในการประท้วงคัดค้านไม่ให้มีการรื้อถอนอาคารตลาดหลังเก่าและไม่ยอมย้ายออกไปจากตลาดหลังเก่าว่า ในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ หากมีการย้ายตลาด และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนั้นแม่ค้า พ่อค้ารับไม่ได้เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีขายของบางวันได้กำไรบางวันขาดทุนหนัก ชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้มีการร้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชแล้วแต่ปรากฏว่าศาลปกครองไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ซึ่งขอขยายเวลาการรื้อถอนและย้ายตลาดไปอีก 3 ปี
ขณะที่แม่ค้ารายหนึ่ง เปิดเผยว่า ปัญหาที่แม่ค้าประสบและไม่อยากย้ายออกไปจากตลาด คือ เรื่องของกรรมสิทธิ์แผงค้าเนื่องจากบางรายถือสิทธิลอย และขายสิทธิลอยหรือเช่าลอยไปถึงมือที่ 4-5 โดยที่ไม่ได้โอนสิทธิที่เทศบาลให้ถูกต้อง ส่งผลให้สรรบบของผู้ถือครองสิทธิแผงค้ายังคงเป็นคนเดิม และหากมีการย้ายออกไปสิทธิของแผงค้ายังคงเป็นของคนเดิม และทางเทศบาลได้เปิดโอกาสให้ไปแก้ไขการถือครองสิทธิให้ถูกต้องแล้วแต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน 10,000 บาท ทำให้แม่ค้าที่ขายของในแผงค้าปัจจุบันที่มีปัญหาเช่นนี้ไม่อยากชำระเงินจึงต้องออกมาประท้วง
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า การประท้วงของกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าดังกล่าวได้กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งที่ต้องการสร้างแรงกดดันให้กับเทศบาล และมีการเข้าไปแทรกแซงบงการกลุ่มผู้ชุมนุม ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนในเขตเทศบาลที่ต้องการตลาดที่ถูกสุขลักษณะเนื่องจากเมื่อเข้าไปจับจ่ายซื้อของในตลาดดังกล่าวนั้นสภาพทางเดินมีน้ำขังเฉอะแฉะ ขาดการจัดระเบียบสินค้า รวมทั้งแผงจำหน่ายเนื้อสัตว์ต่างๆนั้นกองแบบขาดสุขอนามัยที่ดี และปัญหาดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่งทำให้ผู้ซื้อหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปซื้อของในตลาด