นราธิวาส – ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เผยยอดกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมาก สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
นายสนิท กำธรสวัสด์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาสุไหงโก-ลก กล่าวถึงการกู้ยืมเงินของประชาชนในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่าขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามาขอกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยกันมาก ซึ่งสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะได้รับอนุมัติ 3-4 รายต่อเดือน ในวงเงิน 3-5 แสนบาท
ส่วนกรณีความเสี่ยงเรื่องหนี้สูญนั้น ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาสุไหงโก-ลกนั้น ได้ถึงการควบคุมของระบบซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละรายได้ ทำให้ง่ายต่อการอนุมัติสินเชื่อตามนโนบายของธนาคาร ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อการลงทุน ดอกเบี้ย 1.5 สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและผู้ประกอบการรายย่อยยังคงมีการแจ้งความจำนงเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดชะงักตามพิษเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกยังคงมีการดำเนินการตามนโยบายเดิมที่มุ่งเน้นการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก แต่หากรัฐบาลมีนโยบายหรือมาตรการใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารของรัฐก็ต้องมีการปรับการบริหารจัดการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป
นายสนิท กำธรสวัสด์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาสุไหงโก-ลก กล่าวถึงการกู้ยืมเงินของประชาชนในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่าขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามาขอกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยกันมาก ซึ่งสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะได้รับอนุมัติ 3-4 รายต่อเดือน ในวงเงิน 3-5 แสนบาท
ส่วนกรณีความเสี่ยงเรื่องหนี้สูญนั้น ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาสุไหงโก-ลกนั้น ได้ถึงการควบคุมของระบบซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละรายได้ ทำให้ง่ายต่อการอนุมัติสินเชื่อตามนโนบายของธนาคาร ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อการลงทุน ดอกเบี้ย 1.5 สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและผู้ประกอบการรายย่อยยังคงมีการแจ้งความจำนงเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดชะงักตามพิษเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกยังคงมีการดำเนินการตามนโยบายเดิมที่มุ่งเน้นการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก แต่หากรัฐบาลมีนโยบายหรือมาตรการใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารของรัฐก็ต้องมีการปรับการบริหารจัดการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป
