ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานีเดินหน้าจัดเวทีสัญจร ครั้งที่ 2 "ปฏิบัติการเชิงรุก นิยามการเมืองใหม่ สร้างเครือข่ายทั่วไทย"
นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถะการ ประธานศูนย์ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการจัดเวทีสัญจรครั้งที่ 2 เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องค้าปลีกให้กับประชาชนและเครือข่ายพันธมิตรฯ ในชุมชนได้รับทราบว่า ตามที่พันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี ได้จัดโครงการพันธมิตรฯสัญจรครั้งที่ 1 ที่ อ.นาสาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าการจัดงานดังกล่าวประสพผลสำเร็จอย่างมาก มีประชาชนและพี่น้องพันธมิตรเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก โดยมีกิจกรรมให้ความรู้การจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชน กิจกรรมให้ความรู้ด้านการเรียนรู้ถึงผลได้และผลเสียของค้าปลีกข้ามชาติ และเพื่อสร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนครบทุกตำบล และให้ครบทุกหมู่บ้าน ทางกลุ่มพันธมิตรสุราษฎร์ฯจึงได้กับหนดจัดเวทีสัญจรในพื้นที่อำเภอนาสารเพิ่ม เนื่องจาก อำเภอบ้านนาสารแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 11 ตำบล 65 หมู่บ้าน
โดยเวทีสัญจรครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ ต.พรุพี อ.นาสาร มีจำนวนประชากรในเขต อบต. 5,474 คน และจำนวนหลังคาเรือน 1,725 หลังคาเรือน แบ่งเป็น 7 หมู่บ้าน ภายใต้ชื่องาน "ปฏิบัติการเชิงรุก นิยามการเมืองใหม่ สร้างเครือข่ายทั่วไทย" จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 15 ก.พ.52 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ โรงกลึงไม้บ้านห้วยร่วง ริมถนนสายพรุพี - บ้านส้อง ข้างทางรถไฟ
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดเวทีสัญจรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์โดยศูนย์ประสานงานพันธมิตรนั้น คณะกรรมการของ พธม.สุราษฎร์ธานี ได้มีมติร่วมกันว่า ให้มีการขยายผลดำเนินโครงการ พธม.สัญจร รวมทั้งขยายเครือข่ายให้ครบทุกอำเภอ ทุกตำบล และทุกหมู่บ้าน เพื่อให้มีเครือข่าย พธม.ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดสุราษฎร์ และเพื่อให้เกิดแนวร่วม พธม.ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเสริมสร้างความรู้ในท้องถิ่นควบคู่กันไปด้วย โดยมีนักวิชาการท้องถิ่นเกี่ยวกับการเกษตร รวมถึงนักกฎหมาย และอนามัยชุมชนด้านสุขภาพ นอกจากนั้น ยังเป็นให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่จาก แกนนำ พธม.สุราษฎร์ธานี
นอกจากนั้น ยังถ่ายทอดความรู้และแนะเทคนิคการติดตั้งจานดาวเทียม ASTV ให้กับพี่น้อง พธม.ในพื้นที่ และประชาชนทั่วไปอีกด้วย รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือ กลุ่มศิลปินเพลง พธม. และสินค้าในเครื่องข่าย พธม.จึงได้มีการนำเอาแผ่นซีดี และช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ กลุ่มร้านค้าของ พธม.โดยการให้ร่วมลงทะเบียน และนำสินค้าไปจำหน่ายด้วยในคราวเดียวกัน เพื่อนำรายได้มาเคลื่อนไหวต่อไป