ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แกนนำพันธมิตรฯ ใต้ จัดเสวนา “สร้างสังคมตื่นรู้การเมืองใหม่”เชิญ “สมศักดิ์ โกศัยสุข-สุริยะใส กตะศิลา” ชี้แนะพร้อมระดมสมองหาแนวทางจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนภาคใต้ ขับเคลื่อนการเมืองใหม่ให้เข้มแข็ง
นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผย “ASTV ผู้จัดการรายวัน” ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนภาคใต้ 16 จังหวัดรวมทั้งประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรีว่า ภายหลังจากที่พันธมิตรฯได้ยุติการชุมนุม และทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ 16 จังหวัดได้มีมติที่จะมีการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนในการขับเคลื่อนการเมืองใหม่นั้น เพื่อให้เกิดการรวมตัวที่เข้มแข็งและมีความรู้เรื่องการเมืองใหม่นั้น ซึ่งขณะนี้การจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนยังไม่มีความคืบหน้าและชัดเจนมากนัก ทางแกนนำพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ได้กำหนดที่จะมีการจัดเสวนาเรื่อง “สร้างสังคมตื่นรู้การเมืองใหม่” ขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่จังหวัดระนอง
การจัดเสวนาดังกล่าว ทางแกนนำพันธมิตรฯ ภาคใต้ได้เชิญ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้และชี้แนะแนวทางในการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนภาคใต้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งจะมีการะดมความคิดเห็นจากแกนนำพันธมิตรฯจากทุกกลุ่มและทุกจังหวัด ถึงแนวทางการจัดตั้งเครือข่ายด้วย ซึ่งการประชุมแกนนำพันธมิตรในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้าที่ได้นัดหารือกันที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ก็ต้องเลื่อนออกมาจัดในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะในช่วงเย็นของวันเดียวกันจะมีการเปิดเวทีพันธมิตรที่จังหวัดระนอง ภายใต้ชื่อว่า “สังสรรค์พันธมิตรฯ ระนอง ก้าวย่างสู่การเมืองใหม่” ซึ่งจะมีแกนนำเดินทางพบปะและให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่หลายคนด้วยกัน อาทิ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายพิชิต ไชยมงคล เป็นต้น โดยจะมีแกนนำพันธมิตรฯภาคใต้เข้าร่วมเสวนาประมาณ 50 คน
“เราเชื่อว่าภายหลังการระดมสมองในครั้งนี้ ทางพันธมิตรฯ ภาคใต้จะมีแนวทางในการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนที่ชัดเจนมากขึ้น” นายสุนทร กล่าว
นายสุนทร กล่าวต่อว่า การจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนภาคใต้นั้น ก็เพื่อต้องการให้มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็งและมีความรู้ความเข้าใจการเมืองใหม่ให้ทั่วถึง เพราะในช่วงของการชุมนุมที่มีการรวมตัวของพันธมิตรนั้นเป็นการรวมตัวกันขึ้นเพื่อที่จะกดดันและขับไล่รัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นงานร้อน เมื่องานร้อนได้ยุติลงแล้วก็ต้องให้การรวมตัวเกิดความเหนียวแน่นและให้ประชาชนมีความรู้เรื่องการเมืองใหม่ เพราะในการตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองนั้นประชาชนจะต้องมีความรู้ด้วย
“หากประชาชนไม่มีความรู้เชื่อว่าการเมืองใหม่จะเกิดได้อยาก และไม่เชื่อว่าการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้จากการปฎิรูปและการปฏิบัติ แต่เชื่อว่าการเมืองใหม่เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้อย่างจริงจังของประชาชน ที่รู้ว่าสิทธิของตนเองมีอะไรบ้าง มีการรวมกลุ่มกันปกป้องสิ่งต่างๆ ที่ถูกต้อง หากประชาชนไม่มีความรู้ก็จะตกอยู่ในวงล้อมของระบบอุปถัมถ์ของนักการเมือง” นายสุนทร กล่าว
นายสุนทร กล่าวอีกว่า คนภาคใต้นั้นมีความรู้ความเข้าใจและตื่นตัวการเมืองใหม่พอสมควร ซึ่งในส่วนของคนใต้มองว่าการเมืองใหม่จะต้องแก้ 2 เรื่องหลักด้วยกัน คือ แก้ที่ระบบและแก้ที่คน การแก้ระบบคือการแก้กฎกติกาต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ การจัดตั้งองค์กรอิสระที่ปลอดจากการแทรกแซงของนักการเมือง การแก้ที่คนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหากเราแก้ระบบให้ดีแล้ว แต่คนยังไม่ดีปัญหาก็จะตามมาอีก ดังนั้นจะต้องเพิ่มความรู้ให้คนมีประสทิธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายสุนทร กล่าวเพิ่มว่า การจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนในส่วนของจังหวัดชุมพรนั้นจะดึงทุกกลุ่มเข้ามาเป็นเครือข่ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ โดยยึดหลักจะไม่มีความขัดแย้งกัน สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ทุกกลุ่ม เมื่อข้างบนเป่านกหวีดรวมพลสามารถที่จะระดมพลและเข้ากรุงได้ทันที