นครศรีธรรมราช – ฆ่าหัวหน้าคุมคนงานก่อสร้าง ถูกเชือดด้วยของมีคมด้านหน้าเป็นแผลเหวอะหวะ ทิ้งบ่อน้ำข้างบ้าน เจ้าหน้าที่คาดโจรชิงทรัพย์ ผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.ร.ต.ท.ไพโรจน์ ชนะชัย ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายหลังบ้านเลขที่ 94/2 หมู่ที่ 4 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทิตย์ พันธ์พิทย์แพทย์ ผกก., พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาลกะ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.กฤษฎา สิทธิยานันท์ สว.สส.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 10 แพทย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง รุดไปร่วมกันชันสูตรพลิกศพยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร พบศพ นายสุทิน พัฒนแก้ว อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านตายลอยอืดในบ่อน้ำ สภาพศพนอนคุดคู้ นุ่งผ้าโสร่งผืนเดียว นุ่งกางเกงในสีดำ ไม่สวมเสื้อ จึงนำศพขึ้นจากบ่อทำการพลิกศพ พบบาดแผลถูกเชือดด้วยของมีคมด้านหน้าเป็นแผลเหวอะหวะ คาดว่า ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม.ตรวจบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบกองเลือดกองใหญ่ที่ลานหญ้าข้างบ้าน และพบรอยเลือดหยดเรี่ยราดที่พื้นออกจากที่นอนของผู้ตายภายในบ้านออกมาด้านนอก
จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจ ทราบว่า นายสุทิน ผู้ตายเป็นน้องชายของ นายจาบ พัฒนแก้ว เจ้าของ หจก.สินประสานมิตร ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ใน อ.ทุ่งสง ซึ่งรับเหมาก่อสร้างอาคารโรงเรียนและสถานที่ราชการหลายแห่ง โดย นายสุทิน ผู้ตายทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างในโครงการรับเหมาต่างๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยพบว่า นายสุทิน ผู้ตายพักอยู่ที่บ้านดังกล่าวเพียงคนเดียว ส่วนลูกเมียพักอยู่ที่บ้านอีกหลัง
ก่อนพบศพคนงานก่อสร้างไม่เห็นผู้ตายไปที่หน้างานเหมือนปกติทุกวัน จึงไปที่บ้านพักก่อนจะศพ นายสุทิน ถูกคนร้ายสังหารนำศพทิ้งบ่อน้ำแล้ว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียวได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน มาหาแล้วใช้อาวุธมีดจี้บังคับเพื่อชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนจึงถูกคนร้ายจับเชือดคอจนตายแล้วลากศพไปศพทิ้งบ่อน้ำ และจากการตรวจสอบพบว่า เงินสดของผู้ตายจำนวนหลายหมื่นบาทที่ผู้ตายเก็บไว้ได้หายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะเอาเงินแล้วหลบหนีไป
ต่อมา ตำรวจได้สอบสวน นายจาบ พี่ชายของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครเป็นคนงานที่ทำงานก่อสร้างรักใคร่ทุกคน ซึ่งคาดว่า การตายครั้งนี้เป็นการฆ่าชิงทรัพย์มากกว่า เพราะคนร้ายที่มาลงมืออาจจะรู้จักกับผู้ตายเข้าไปจี้ชิงทรัพย์แล้วลงมือฆ่าปิดปากอย่างโหดเหี้ยม ก่อนลากศพไปทิ้งบ่อน้ำ ซึ่งตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.ร.ต.ท.ไพโรจน์ ชนะชัย ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายหลังบ้านเลขที่ 94/2 หมู่ที่ 4 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทิตย์ พันธ์พิทย์แพทย์ ผกก., พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาลกะ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.กฤษฎา สิทธิยานันท์ สว.สส.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 10 แพทย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง รุดไปร่วมกันชันสูตรพลิกศพยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร พบศพ นายสุทิน พัฒนแก้ว อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านตายลอยอืดในบ่อน้ำ สภาพศพนอนคุดคู้ นุ่งผ้าโสร่งผืนเดียว นุ่งกางเกงในสีดำ ไม่สวมเสื้อ จึงนำศพขึ้นจากบ่อทำการพลิกศพ พบบาดแผลถูกเชือดด้วยของมีคมด้านหน้าเป็นแผลเหวอะหวะ คาดว่า ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม.ตรวจบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบกองเลือดกองใหญ่ที่ลานหญ้าข้างบ้าน และพบรอยเลือดหยดเรี่ยราดที่พื้นออกจากที่นอนของผู้ตายภายในบ้านออกมาด้านนอก
จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจ ทราบว่า นายสุทิน ผู้ตายเป็นน้องชายของ นายจาบ พัฒนแก้ว เจ้าของ หจก.สินประสานมิตร ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ใน อ.ทุ่งสง ซึ่งรับเหมาก่อสร้างอาคารโรงเรียนและสถานที่ราชการหลายแห่ง โดย นายสุทิน ผู้ตายทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างในโครงการรับเหมาต่างๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยพบว่า นายสุทิน ผู้ตายพักอยู่ที่บ้านดังกล่าวเพียงคนเดียว ส่วนลูกเมียพักอยู่ที่บ้านอีกหลัง
ก่อนพบศพคนงานก่อสร้างไม่เห็นผู้ตายไปที่หน้างานเหมือนปกติทุกวัน จึงไปที่บ้านพักก่อนจะศพ นายสุทิน ถูกคนร้ายสังหารนำศพทิ้งบ่อน้ำแล้ว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียวได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน มาหาแล้วใช้อาวุธมีดจี้บังคับเพื่อชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนจึงถูกคนร้ายจับเชือดคอจนตายแล้วลากศพไปศพทิ้งบ่อน้ำ และจากการตรวจสอบพบว่า เงินสดของผู้ตายจำนวนหลายหมื่นบาทที่ผู้ตายเก็บไว้ได้หายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะเอาเงินแล้วหลบหนีไป
ต่อมา ตำรวจได้สอบสวน นายจาบ พี่ชายของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครเป็นคนงานที่ทำงานก่อสร้างรักใคร่ทุกคน ซึ่งคาดว่า การตายครั้งนี้เป็นการฆ่าชิงทรัพย์มากกว่า เพราะคนร้ายที่มาลงมืออาจจะรู้จักกับผู้ตายเข้าไปจี้ชิงทรัพย์แล้วลงมือฆ่าปิดปากอย่างโหดเหี้ยม ก่อนลากศพไปทิ้งบ่อน้ำ ซึ่งตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว