สุราษฎร์ธานี - “สมศักดิ์” จี้รัฐบาล ปชป.จัดการกับตำรวจฆ่าประชาชน ทวงคืน ปตท.-เขาพระวิหาร ยึดพาสปอร์ต “แม้ว” ทุกเล่ม ขณะที่การเมืองใหม่ต้องเดินหน้าต่อไป
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเวทีพันธมิตรฯ ที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การต่อสู้ของคนเกาะพะงันนั้นมีประวัติศาสตร์ คนเกาะพะงันได้ร่วมต่อสู้กับระบบเผด็จการมาตั้งแต่สมัยอดีต ซึ่งการต่อสู้เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น เนื่องจากไปสมคบกับทุนต่างชาติ เป็นเผด็จการทุนนิยมที่ออก พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการขายรัฐวิสาหกิจ ขาย ปตท. ทำให้น้ำมันราคาแพง สินค้าราคาแพง แต่เมื่อราคาน้ำมันลดราคาของไม่ลงตามคนที่เดือดร้อนคือประชาชนที่ต้องเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
“ทักษิณเอากฎหมายเรื่องที่ดินไปออก พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษให้ใครก็ได้มาซื้อที่ดินได้ เพราะฉะนั้นคนเกาะพะงันจะต้องไม่ขายที่ดิน ถ้าขายไปแล้วจะเดือดร้อน ตอนนี้ห้างต่างชาติเข้ามาในพื้นที่แล้วเราจะต้องไล่มันออกไปอย่าให้มาสร้างเพราะการเข้ามาของห้างต่างชาติเหล่านี้จะมาทำลายพวกเรา”
นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีเขาพระวิหารว่าถ้าเป็นของกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวเขาคงไม่ต้องมาให้เราเห็นชอบให้เขาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว แต่เพราะส่วนหนึ่งเป็นของไทยเลยต้องมาถาม เหมือนที่ดินถ้าเป็นของเรา เราจะขายใครก็ได้โดยไม่ต้องไปถามคนข้างบ้าน
“การไล่ทักษิณนั้นก็เพราะทักษิณเป็นคนที่ทำลายชาติ ศาสนา มีการสร้างพระพุทธรูปปางชินวัตรที่ขณะนี้ถูกทำลายไปแล้วหลังจากคุณสนธิขึ้นไปพูดบนเวที แต่หลังจากที่เรารวมตัวกันชุมนุมขณะนี้ก็ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายกันไปแล้วจำนวน 20,000 ล้านบาท ซึ่งก็น่าดีใจที่เป็นลูกคนจนแต่ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายสูงถึงเท่านี้ฟ้องไป 3 พันปีก็ไม่ได้”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ตำรวจที่ไม่ดีต้องไล่ออกไป ตอนนี้ตำรวจกำลังล่าชื่อเพื่อถอดถอนป.ป.ช. เนื่องจาก ป.ป.ช.กำลังจะมีการดำเนินการสอบสวนตำรวจกรณีเหตุการณ์ วันที่ 7 ต.ค.51 สำหรับการต่อสู้นั้นถ้าพันธมิตรไม่ต่อสู้ คนก็ไม่เข้าใจ และจะไม่เหลือแผ่นดินให้ลูกหลานเลย การไล่ระบบทักษิณที่ผ่านมาได้ผลหลายอย่าง เช่น รัฐบาลทักษิณไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ทำให้ทักษิณถูกตัดสินจำคุก ประชาชนได้ความกล้าหาญมีความแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ยังไม่จบ การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์บอกว่าไม่มีเขา (กลุ่มเพื่อนเนวิน) ไม่มีเรา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่มีพันธมิตรฯ ก็ไม่มีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเขาสู้กับพลังประชาชนไม่ได้ เนวินจึงได้เปลี่ยนขั้วเพราะรู้ว่าอยู่ไปก็ไปไม่รอด จึงได้มีการเปลี่ยนขั้ว
“เราจะปล่อยให้ ปชป.บริหารไปสักระยะ คาดว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะต้องมีการหักหลังเกิดขึ้น เพราะเคยหักหลังบรรหาร และทักษิณมาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ได้ยื่นข้อเสนอไปจำนวน 13 ข้อ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ เช่น การเอา ปตท.กลับมาเป็นของรัฐ ทวงคืนปราสาทพระวิหาร การยกเลิกพาสปอร์ตทุกชนิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาธิปัตย์มี 2 ทางเลือก ระหว่างสมคบกับเนวินเพื่อความอยู่รอด หรือเลือกอยู่ข้างประชาชน”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เราเป็นประชาชน เชื่อว่าจะรักอย่างไรก็ต้องตรวจสอบ ถ้าดีก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตำรวจที่ทำร้ายประชาชนจะต้องมีการล้างบาง เพราะมีหลักฐานชัดเจน เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการ
ส่วนเรื่องการเมืองใหม่นั้นนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องมีการต่อสู้ต่อไป เกาะกลุ่มกันไปให้แน่น รวมตัวจัดตั้งกลุ่ม จัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะต่อสู้กันต่อไป การเมืองใหม่นั้นจะต้องไม่คดโกง การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์