ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สถานการณ์คลื่นลมแรง ในพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดสงขลาส่งผลให้ถนนเลียบชายทะเลที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.เมืองสงขลากับ อ.จะนะ ที่เพิ่งมีการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ถูกคลื่นซัดพังเสียหาย ชาวบ้านเรียกร้องติดตั้งไฟสัญญาณเตือนภัยบนถนน พร้อมเผยคลื่นอ่าวไทยแรงจัดในรอบ 10 ปี
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง และ ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่ยังคงมีกำลังแรง และพัดถล่มชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ถนนสายสงขลา-นาทับ ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเลที่เชื่อมต่อระหว่างอ.เมืองสงขลากับ อ.จะนะที่เพิ่งมีการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายทั้งหมด 7 จุด
โดยเริ่มจากหมู่ 8 บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว ถนนพังเสียหาย 2 จุด และหมู่ 10 บ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ ถนนพังเสียหายจำนวน 5 จุด โดยบางจุดเสียหายหนักถูกคลื่นซัดลึกเข้าไปจนถึงกึ่งกลางถนนจนต้องทำทางเบี่ยง นอกจากนี้ความแรงของคลื่นยังได้สร้างความเสียหายให้กับเขื่อนตะแกรงหินกันคลื่นความยาวหลายกิโลเมตร
นายหมุกตาด โส๊ะเหล๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า สภาวะคลื่นลมในทะอ่าวไทยที่เกิดขึ้น ในขณะนี้นับว่าแรงสุดในรอบ 10 ปี จนถนนพังเสียหายประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงกลางคืนเพราะถนนเส้นนี้ไม่มีไฟฟ้าริมถนน
ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้หน่วยที่รับผิดชอบรีบดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องทาง และไฟสัญญาณเตือนภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันในระหว่างนี้ชาวบ้านได้มีการจัดเวรยามเพื่อคอยเตือนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เส้นทางนี้ในช่วงกลางคืน เนื่องจากเสี่ยงต่อการตกถนน