ยะลา - สหพันธ์นักศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 500 คน เดินขบวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เพื่อประณามอิสราเอล พร้อมเผาธงชาติอิสราเอลและเรียกร้องไม่ซื้อใช้สินค้าของประเทศที่สนับสนุนอิสราเอลกว่า 200 ชนิด พร้อมจี้รัฐบาลตระหนักเห็นบทเรียนของการใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดขึ้นกับจังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บริเวณหน้ามัสยิดกลางจังหวัดยะลา สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนน.จชต.) ประกอบด้วย สมาพันธ์นิสิตนักศึกษา จ.ยะลา ปัตตานี สงขลา องค์การบริหารองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย(ยมท.) เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน(คพช.) เครือข่ายสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ กลุ่มนักศึกษาสาธารณสุขเพื่อสังคม และเครือข่ายนักศึกษาเยาวชนเพื่อสันติภาพ กว่า 500 คน รวมตัวเดินขบวน ประณามอิสราเอลที่ใช้ความรุนแรงโจมตีปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซ่า จนเป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งนี้ ได้จัดขบวนเดินไปตามถนนภายในเขตเทศบาลนครยะลา ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พร้อมกับแจกจ่ายใบปลิวเรียกร้องให้หยุดซื้อสินค้าจากประเทศที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล ทุกชนิดและแจกจ่ายใบปลิวประณามอิสราเอล โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามอิสราเอล 4 ข้อ คือ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีคัดค้านการใช้ความรุนแรงของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ ในฐานะประเทศหนึ่งที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ
นอกจากนี้ ให้รัฐบาลไทยถือเอาเหตุการณ์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหยุดการใช้ความรุนแรงกับประชาชนอย่างยั่งยืน เรียกร้องให้ประชาชน ร่วมกันหยุดซื้อสินค้าจากประเทศสนับสนุนอิสราเอล ซึ่งใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทธโทปกรณ์ เพื่อก่อการร้าย และเรียกร้องให้ภาคสังคมไทยและมนุษยชาติทั่วทุกมุมโลกที่เคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพของประชาชนร่วมกันประณามและคัดค้านรัฐบาลอิสราเอล นอกจากยังได้แจกใบปลิว บทความ เราต้องประณามอิสราเอล ของนายใจ อึ้งภากรณ์ ให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาในตัวเมืองยะลาอีกด้วย
ในขณะเดียวที่ห้องประชุม สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม ประธานมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ ร่วมกับนายอิบรอฮิม ยานยา ดร.มะรอนิง สาแลมิง และ นายมันโซ สาและ นักวิชาการอิสระ จัดเสวนาในหัวข้อฮิจเราะห์ศักราชใหม่กับการเปลี่ยนแปลงในสังคม โดยมีผู้สนใจเข้ารับฟังกว่า 1,000 คน
