ตรัง – นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เผยสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรังเริ่มดีขึ้นในช่วงต้นปี 2552 หลังจากสถานการณ์ทางด้านการเมืองเริ่มที่จะสงบลง และราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เริ่มไหลเข้ามาท่องเที่ยวยังหวัดตรัง ด้วยการจองเพ็คเก็จทัวร์และจับจ่ายใช้สอยระหว่างการท่องเที่ยว
นายวิชัย รัตตมณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปี 2552 เป็นต้นมา หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2552 ว่า โดยภาพรวมเริ่มมีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นจากปี 2550 เล็กน้อย หรือประมาณ 2-5 % โดยยอดเงินสะพัดด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2550 อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนการท่องเที่ยวในปี 2551 มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดตรัง ประมาณ 600,000-700,000 คน และมียอดเงินสะพัดเข้ามาประมาณ 3,000 ล้านบาท เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรังเริ่มดีขึ้น หลังจากสถานการณ์ทางด้านการเมืองเริ่มที่จะสงบลง และราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เริ่มไหลเข้ามาท่องเที่ยวยังหวัดตรัง ด้วยการจองเพ็คเก็จทัวร์ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่า สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2551 น่าจะประสบกับปัญหาต่างๆ จนอาจส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลง แต่จากภาพรวมของการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 50,000 คน
โดยในจำนวนนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 25 % สำหรับในส่วนที่เหลือจะเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางเข้ามาประมาณ 70 % ทำให้มีเงินสะพัดเข้ามาประมาณ 20 ล้านบาท เท่ากับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 จึงถือได้ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกและในประเทศไทยจะซบเซาลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม ถ้าดูถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 นี้ จะมีการเปลี่ยนไปจากปี 2551 ที่ผ่านมาในหลายๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการขับรถส่วนตัวเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดตรัง มากว่าการซื้อเพ็คเก็จทัวร์จากทางบริษัท จึงทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเงินได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากไปต้องกังวลในเรื่องของราคาน้ำมัน ส่งผลให้มีการซื้อของฝากหรือของที่ระลึกต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการนำเต็นท์มากางนอนพักแรมตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากกว่าการเช่าห้องพัก สำหรับแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวในปี 2552 ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง ต่างก็ตั้งความหวังและภาวนาให้การเมืองของประเทศไทยสงบนิ่งเช่นนี้ตลอดไป เพราะถือเป็นความเชื่อมั่นที่สำคัญของนักท่องเที่ยวในทั่วโลก
นายวิชัย รัตตมณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปี 2552 เป็นต้นมา หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2552 ว่า โดยภาพรวมเริ่มมีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นจากปี 2550 เล็กน้อย หรือประมาณ 2-5 % โดยยอดเงินสะพัดด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2550 อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนการท่องเที่ยวในปี 2551 มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดตรัง ประมาณ 600,000-700,000 คน และมียอดเงินสะพัดเข้ามาประมาณ 3,000 ล้านบาท เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรังเริ่มดีขึ้น หลังจากสถานการณ์ทางด้านการเมืองเริ่มที่จะสงบลง และราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เริ่มไหลเข้ามาท่องเที่ยวยังหวัดตรัง ด้วยการจองเพ็คเก็จทัวร์ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่า สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2551 น่าจะประสบกับปัญหาต่างๆ จนอาจส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลง แต่จากภาพรวมของการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 50,000 คน
โดยในจำนวนนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 25 % สำหรับในส่วนที่เหลือจะเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางเข้ามาประมาณ 70 % ทำให้มีเงินสะพัดเข้ามาประมาณ 20 ล้านบาท เท่ากับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 จึงถือได้ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกและในประเทศไทยจะซบเซาลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม ถ้าดูถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 นี้ จะมีการเปลี่ยนไปจากปี 2551 ที่ผ่านมาในหลายๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการขับรถส่วนตัวเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดตรัง มากว่าการซื้อเพ็คเก็จทัวร์จากทางบริษัท จึงทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเงินได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากไปต้องกังวลในเรื่องของราคาน้ำมัน ส่งผลให้มีการซื้อของฝากหรือของที่ระลึกต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการนำเต็นท์มากางนอนพักแรมตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากกว่าการเช่าห้องพัก สำหรับแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวในปี 2552 ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง ต่างก็ตั้งความหวังและภาวนาให้การเมืองของประเทศไทยสงบนิ่งเช่นนี้ตลอดไป เพราะถือเป็นความเชื่อมั่นที่สำคัญของนักท่องเที่ยวในทั่วโลก