ยะลา - คนร้ายซิ่งรถยนต์กระบะใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าถล่มอดีตอาสาสมัครทหารพรานสายข่าว เจ้าหน้าที่รัฐดับ 1 ศพ ชาวบ้านสาหัส 2 คนที่ อ.รามัน จ.ยะลา
วันนี้ (5 ม.ค.) พ.ต.ท.สมปราช กรรณกานนท์ สว.หน.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งจาก ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านปาดาฮัน หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ ว่ามีเหตุคนร้ายยิงชาวบ้าน บริเวณ 3 แยกปาดาฮัน บนถนนสายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.12 อ.รามัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอีกจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าว สองข้างทางเป็นที่เปลี่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเพียงแต่กองเลือดกองใหญ่จำนวน 2 กอง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านนำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน ทราบชื่อคือ 1.นายมาหามะซัยซู สาระ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน เป็นอดีตอาสาสมัครทหารพราน และเป็นสายข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้าเข้าที่บริเวณลำตัวและหน้าอกจำนวนหลายนัด
2.นายมะเอาซี มะนังซายา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112หมู่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ถูกยิงเข้าที่บริเวณแขนซ้าย จำนวนหลายนัด 3. ด.ช.พอสมี ดอแม อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ถูกยิงเข้าที่บริเวณมือซ้าย กระดูกแตก ล่าสุดแพทย์ต้องนำตัวส่งมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายมาหามะซัยซู และเพื่อนบ้านประมาณ 5 - 10 คน สังเกตระดับน้ำท่วมในพื้นที่ และกำลังจะเข็นรถจักรยานยนต์หนีน้ำท่วม มาไว้บนถนนภายในหมู่บ้าน คนร้ายจำนวน 3-5 คน ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 9 ไม่ทราบตัวอักษรและจังหวัด ขับมาจอดตรงบริเวณที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นคนร้ายที่นั่งบริเวณกระบะหลัง ได้ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้ายิงใส่ นายมาหามะซัยซุ จำนวนหลายนัดจนล้มลงเสียชีวิต นอกจากนั้นกระสุนยังพลาดไปโดนเด็ก และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ดังกล่าว หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปทางเส้นทางสายบ้านกูยิ-บ้านเกะรอ ไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ตายเป็นสายข่าวให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้คนร้ายโกรธแค้นและลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น