ระนอง - จังหวัดระนองเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศปีใหม่ ตั้งเป้ามีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 1 คน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(30 ธ.ค.51) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2552 ณ จุดตรวจหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดระนอง โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อลดความสูญเสียเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจังหวัดระนองได้ตั้งเป้าหมายคาดคะเน จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2552 มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บไม่เกิน 14 คน จำนวนอุบัติเหตุไม่เกิน 13 ครั้ง พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถสองแถวรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองระนอง
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า แม้ว่าจังหวัดได้ตั้งเป้าหมายคาดคะเนการเกิดอุบัติ จำนวนผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บไว้ แต่ถ้าไม่มีเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ก็ยิ่งดี ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอความร่วมมือภาคราชการ เอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร สื่อมวลชน และประชาชนร่วมกันผนึกกำลังในเชิงบูรณาการ เพื่อบริการพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยมากที่สุด และเน้นย้ำ กวดขันผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย “3 ม. 2ข. 1ร.” คือไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย เมาแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ และขับรถเร็วเกินกำหนด และหวังว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(30 ธ.ค.51) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2552 ณ จุดตรวจหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดระนอง โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อลดความสูญเสียเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจังหวัดระนองได้ตั้งเป้าหมายคาดคะเน จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2552 มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บไม่เกิน 14 คน จำนวนอุบัติเหตุไม่เกิน 13 ครั้ง พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถสองแถวรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองระนอง
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า แม้ว่าจังหวัดได้ตั้งเป้าหมายคาดคะเนการเกิดอุบัติ จำนวนผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บไว้ แต่ถ้าไม่มีเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ก็ยิ่งดี ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอความร่วมมือภาคราชการ เอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร สื่อมวลชน และประชาชนร่วมกันผนึกกำลังในเชิงบูรณาการ เพื่อบริการพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยมากที่สุด และเน้นย้ำ กวดขันผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย “3 ม. 2ข. 1ร.” คือไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย เมาแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ และขับรถเร็วเกินกำหนด และหวังว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้