ยะลา – คนร้ายซุ่มยิง ทหารรักษาความปลอดภัยโรงเรียนหลักเขต ต.ปะแต อ.ยะหา เป็นเหตุให้ต้องปะทะกันนานกว่า 10 นาที ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 นาย ล่าสุด เจ้าหน้าที่สนธิกำลังไล่ล่าคนร้ายท่ามกลางฝนตกอย่างหนักแต่ไร้วี่แวว
เมื่อเวลา 12.45 น.วันนี้ (29 ธ.ค.) พ.ต.ท.สุทัศน์ หนูสีคง สว.ญ.หน.สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งจาก ร.ท.สนองพงศ์ เรืองจันทร์ ผบ.ร้อย ร.1525 ฉก.14 ว่า มีเหตุคนร้ายแอบซุ่มยิง จนท.ทหาร ขณะกำลังลาดตระเวน บนถนนสาย 4077 สายยะหา-บันนังสตา บ้านตะโล๊ะเว หมู่ที่ 9 ต.ปะแต หลังได้รับแจ้งรีบนำกำลังเดินทางไปสมทบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา นายโอทาน สายศิลป์ ปลัดป้องกัน อ.ยะหา กำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ทหาร อาวุธครบมืออยู่ในสภาพเตรียมพร้อม อยู่ท่ามกลางสายฝน ที่ตกลงมาอย่างหนักและส่วนหนึ่ง ออกติดตามไล่ล่า คนร้ายอยู่ในป่าเชิงเขา บนถนนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีหลังคาจอดอยู่ สภาพถูกยิงบริเวณกระบะ เป็นรูพรุน และมีปลอกกระสุนปืนตกเกลื่อนกราดเต็มพื้นที่
ส่วนคนเจ็บและผู้เสียชีวิตถูกนำส่ง รพ.บันนังสตา ทราบชื่อ พลทหารพีรวัฒน์ พวงสวรรค์ อายุ 22 ปี ซึ่งเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.พลทหารมะนาเซ วามะ อายุ 22 ปี พลทหารรุสลัน เต็งอุเซ็ง อายุ 22 ปี และ พลทหารมาลูวัน เจ๊ะอาแซ อายุ 22 ปี ทั้งหมดถูกยิงที่บริเวณลำตัวหลายนัด อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน กำลังทหารทั้งหมด จำนวน 10 นาย นั่งรถยนต์กระบะ และตามหลังด้วยรถ จยย.2 คัน เพื่อเดินทางไปรักษาความปลอดภัยให้กับโรงเรียนบ้านหลักเขต ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม.เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายยังไม่ทราบจำนวน แอบซุ่มอยู่ในป่าสองข้างทาง ใช้อาวุธสงคราม เอ็ม16, อาก้า, เอชเค และลูกซองยาว กราดยิงใส่รถยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่ จนท.ภายในรถ ได้กระโดดลงจากรถ หาที่กำบัง ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ จนเกิดปะทะกันดุเดือดอย่างหนัก ประมาณ 10 นาที คนร้ายได้ล่าถอยไปในเวลาต่อมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์และมุ่งร้ายต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้น หลังเกิดเหตุ กำลัง ทหาร สนธิกำลัง ตำรวจ สภ.ปะแต และสภ.ยะหา ออกติดตามไล่ล่า คนร้าย ทันที แต่เนื่องจากว่าฝนกำลังตกลงอย่างหนัก และสภาพพื้นที่เป็นป่าเขา ฝ่ายคนร้ายซึ่งชำนายพื้นที่ และได้เปรียบในภูมิประเทศ ทำให้ จนท.ออกติดตามอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เกรงอาจถูกคนร้ายแอบซุ่มโจมตีอีกระลอก ทำให้การติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงไม่พบกลุ่มคนร้ายแต่อย่างใด
