ศูนย์ข่าวภูเก็ต -รองผู้ว่าฯภูเก็ต ห่วงปัญหาเลิกจ้างงานหลังปีใหม่ วอนผู้ประกอบการหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายทางอื่น แทนการเลิกจ้างงาน
วันนี้ (23 ธ.ค) ที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการสัมมนาโครงการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตามมาตรฐานกฏหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น ว่า
จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ได้ส่งผลกระทบต่อนายจ้าง สถานประกอบกิจการ จนเป็นเหตุให้นายจ้าง สถานประกอบการต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง เพื่อประคับประคองกิจการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และบางสถานประกอบกิจการก็มีการลดจำนวนลูกจ้างลงบางส่วน ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลสถานการณ์การเลิกจ้างลูกจ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วประเทศ ณ ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการเลิกจ้างลูกจ้างแล้วกว่า 5 หมื่นคน และมีแนวโน้มว่าจะมีการเลิกจ้างลูกจ้างอีกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ก็มีสถานประกอบกิจการมีการเลิกจ้างลูกจ้างแล้ว กว่า 100 คน และหลังจากปีใหม่นี้มีแนวโน้มว่าจะมีสถานประกอบกิจการอีกหลายแห่ง จะมีการเลิกจ้างลูกจ้างเพิ่ม
นายวรพจน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อลดปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นมาจากปัญหาการเลิกจ้างงาน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการ ช่วยกันหามาตรการแนวทางในการที่จะประคับประคองกิจการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทั้งในเรื่องของการลดจำนวนค่าใช้จ่าย และการลดจำนวนลูกจ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอันเนื่องมาจากการเลิกจ้างลูกจ้างตามมา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำด้วยว่า หลังจากปีใหม่นี้จะมีข่าวดีสำหรับลูกจ้างทุกคน ซึ่งจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นไปอีก เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน สำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดภูเก็ต ตอนนี้อยู่ที่ 197 บาท และหลังจากปีใหม่นี้ก็คงจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้ใกล้เคียงกับของกรุงเทพฯ
นายวรพจน์ ยังได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของปัญหายาเสพติด ซึ่งในช่วง 90 วันที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้มีการกวาดล้างจับผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้หลายคดี และมีการรณรงค์ให้หน่วยงานราชการ สถานประกอบกิจการ สถานศึกษาจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะในส่วนของสถานประกอบการ หากพบว่ามีลูกจ้างไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะทำให้สถานประกอบกิจการได้รับผลกระทบทั้งระบบ จึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการให้มาก
วันนี้ (23 ธ.ค) ที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการสัมมนาโครงการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตามมาตรฐานกฏหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น ว่า
จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ได้ส่งผลกระทบต่อนายจ้าง สถานประกอบกิจการ จนเป็นเหตุให้นายจ้าง สถานประกอบการต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง เพื่อประคับประคองกิจการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และบางสถานประกอบกิจการก็มีการลดจำนวนลูกจ้างลงบางส่วน ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลสถานการณ์การเลิกจ้างลูกจ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วประเทศ ณ ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการเลิกจ้างลูกจ้างแล้วกว่า 5 หมื่นคน และมีแนวโน้มว่าจะมีการเลิกจ้างลูกจ้างอีกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ก็มีสถานประกอบกิจการมีการเลิกจ้างลูกจ้างแล้ว กว่า 100 คน และหลังจากปีใหม่นี้มีแนวโน้มว่าจะมีสถานประกอบกิจการอีกหลายแห่ง จะมีการเลิกจ้างลูกจ้างเพิ่ม
นายวรพจน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อลดปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นมาจากปัญหาการเลิกจ้างงาน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการ ช่วยกันหามาตรการแนวทางในการที่จะประคับประคองกิจการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทั้งในเรื่องของการลดจำนวนค่าใช้จ่าย และการลดจำนวนลูกจ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอันเนื่องมาจากการเลิกจ้างลูกจ้างตามมา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำด้วยว่า หลังจากปีใหม่นี้จะมีข่าวดีสำหรับลูกจ้างทุกคน ซึ่งจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นไปอีก เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน สำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดภูเก็ต ตอนนี้อยู่ที่ 197 บาท และหลังจากปีใหม่นี้ก็คงจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้ใกล้เคียงกับของกรุงเทพฯ
นายวรพจน์ ยังได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของปัญหายาเสพติด ซึ่งในช่วง 90 วันที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้มีการกวาดล้างจับผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้หลายคดี และมีการรณรงค์ให้หน่วยงานราชการ สถานประกอบกิจการ สถานศึกษาจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะในส่วนของสถานประกอบการ หากพบว่ามีลูกจ้างไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะทำให้สถานประกอบกิจการได้รับผลกระทบทั้งระบบ จึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการให้มาก