นราธิวาส - เรือประมงอับปางหน้าปากอ่าวบางนรา จังหวัดนราธิวาส ตำรวจน้ำโดดเข้าช่วย 10 ลูกเรือปลอดภัย ทรัพย์สินเสียหายหลายล้าน เผยเรือประมงชายฝั่งกว่า 500 ลำ ออกทะเลไม่ได้มาเกือบ 1 เดือนแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) ร.ต.อ.ศักดิธัช วันจันทึก ผู้การเรือตำรวจน้ำ ตำรวจน้ำนราธิวาส ได้รับแจ้งมีเรืออับปางบริเวณน่านน้ำบางนรา หลังรับแจ้งจึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่และนำเรือตรวจการ หมายเลข 528 ออกไปช่วยเหลือไต้ก๋งเรือ และลูกเรือ รวมแล้วช่วยเหลือได้ 10 คน กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบถาม นายอดุลย์ ขนานขาว อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 25 ซอย 2 ถนนไทรงาม ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา ไต้ก๋งเรือประมง พี.เอ.เอฟ.4514 ทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือประมงอวนลากเดี่ยว สัญชาติมาเลเซีย ยาว 16 เมตร กว้าง 5.5 เมตร มีลูกเรือ 9 คนได้ทำการบรรทุกปลา 15,000 กิโลกรัม จากประเทศมาเลเซียมุ่งหน้ามาเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือประมงเทศบาลเมืองนราธิวาส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางนรา เมื่อเรือประมงมาถึงปากร่องแม่น้ำบางนราเกิดกระแสคลื่นลมแรง พัดพาเรือประมงไปติดสันทราย และอับปางลงห่างจากปากร่องแม่น้ำบางนรา 200 เมตร
สำหรับเรือประมง พี.เอ.เอฟ.4514 เป็นเรือประมงของนายพิศาล เจตนาพรสำราญ
อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 135/45 หมู่บ้านเจริญนคร ถนนนาเกลือ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเรือชาวมาเลเซีย ในราคาเกือบ 1 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าลมมรสุมเกิดกระแสคลื่นลมแรงในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีผลกระทบต่อจังหวัดนราธิวาสมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของเรือประมงชายฝั่งในเขต อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้นำเรือมาจอดเทียบท่าหลบลมมรสุมที่ริมฝั่งตลอดแนวของแม่น้ำบางนราเพราะไม่กล้านำ เรือออกทำการประมงในทะเลมาเกือบ 1 เดือนแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) ร.ต.อ.ศักดิธัช วันจันทึก ผู้การเรือตำรวจน้ำ ตำรวจน้ำนราธิวาส ได้รับแจ้งมีเรืออับปางบริเวณน่านน้ำบางนรา หลังรับแจ้งจึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่และนำเรือตรวจการ หมายเลข 528 ออกไปช่วยเหลือไต้ก๋งเรือ และลูกเรือ รวมแล้วช่วยเหลือได้ 10 คน กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบถาม นายอดุลย์ ขนานขาว อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 25 ซอย 2 ถนนไทรงาม ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา ไต้ก๋งเรือประมง พี.เอ.เอฟ.4514 ทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือประมงอวนลากเดี่ยว สัญชาติมาเลเซีย ยาว 16 เมตร กว้าง 5.5 เมตร มีลูกเรือ 9 คนได้ทำการบรรทุกปลา 15,000 กิโลกรัม จากประเทศมาเลเซียมุ่งหน้ามาเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือประมงเทศบาลเมืองนราธิวาส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางนรา เมื่อเรือประมงมาถึงปากร่องแม่น้ำบางนราเกิดกระแสคลื่นลมแรง พัดพาเรือประมงไปติดสันทราย และอับปางลงห่างจากปากร่องแม่น้ำบางนรา 200 เมตร
สำหรับเรือประมง พี.เอ.เอฟ.4514 เป็นเรือประมงของนายพิศาล เจตนาพรสำราญ
อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 135/45 หมู่บ้านเจริญนคร ถนนนาเกลือ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเรือชาวมาเลเซีย ในราคาเกือบ 1 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าลมมรสุมเกิดกระแสคลื่นลมแรงในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีผลกระทบต่อจังหวัดนราธิวาสมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของเรือประมงชายฝั่งในเขต อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้นำเรือมาจอดเทียบท่าหลบลมมรสุมที่ริมฝั่งตลอดแนวของแม่น้ำบางนราเพราะไม่กล้านำ เรือออกทำการประมงในทะเลมาเกือบ 1 เดือนแล้ว
