นครศรีธรรมราช – พันธมิตรฯ นครศรีธรรมราช ชี้ ครม.อภิสิทธิ์ 1 ความหวังหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง หลังโผ ครม.ออกมา เชื่อรัฐบาลรูปแบบนี้ไม่น่าจะยาว หากมีปัญหาพันธมิตรฯพร้อมลุย
ดร.เลิศชาย ศิริชัย อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในฐานะผู้ปราศรัยหลักบนเวทีพันธมิตรฯ นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นต่อโผ ครม.อภิสิทธิ์ 1 ว่า แต่เดิมนั้นสังคมค่อนข้างให้โอกาสสำหรับ ครม.อภิสิทธิ์ สูง แต่โผ ครม.ที่เห็นหน้าค่ากันแบบที่เป็นข่าวต้องบอกว่าความหวังที่มีเต็มเปี่ยมอย่างน้อยได้หายไปแล้วครึ่งหนึ่งทีเดียว ยิ่งมีเสียงของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค พูดทำนอง “ถ้าไม่มีเขาเราจัดรัฐบาลไม่ได้” ยิ่งทำให้ผู้ที่มีความคาดหวังท้อแท้ไปมาก หน้าตา ครม.ที่ออกมา ประชาธิปัตย์เกือบที่จะไม่ได้ทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ไม่ได้ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่แล้วๆ มา หรือไม่ต่างอะไรกับคำพูดที่ว่าเก่งแค่ตีฝีปาก แต่มองประชาชนเป็นคนโง่เหมือนเดิมด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าต้องรอดูผลงาน มาถึงวันนี้การดูนั้นต้องเริ่มดูกันตั้งแต่ตั้ง ครม.ไม่ใช่ดูผลงานเท่านั้น
“ผมเชื่อว่า หากรัฐบาลเป็นไปในรูปแบบเช่นนี้เชื่อว่าจะไปได้ไม่ยาว เท่าที่ดูนั้นช่วงแรกภาคเอกชน เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ต่างให้กำลังใจ มาถึงวันนี้กับเหตุผลที่นายสุเทพใช้เหมือนกับตบหน้าประชาชนปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้แก้ ข้อเสนอที่เข้ามาต่างก็แฝงไปด้วยความขัดแย้งรัฐบาลจึงทำงานยาก ใจที่หนุนให้รัฐบาลจึงลดลงไปมาก” ดร.เลิศชาย กล่าว
ขณะที่ นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดใต้ เปิดเผยว่า เท่าที่ติดตามนั้นพอที่จะดูได้ตามสมควร แต่ที่สำคัญนั้นต้องติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดของ ครม.ทั้งคณะ ถ้าทานกันอย่างชัดเจนเชื่อว่าประชาชนจะให้การยอมรับ มาถึงวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าสังคมไม่ได้กังวลกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เนื่องจากต่างเห็นได้ชัดว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างขาดสติ ขาดเหตุผล กลายเป็นการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น ตรงนี้สังคมจะเป็นแรงบีบกลับไปยังกลุ่มเสื้อแดงเอง อีกอย่างสังคมกำลังติดตามผลงานของรัฐบาลอยู่เช่นกันถ้าผลงานดีเชื่อว่าอยู่ยาว แต่ในทางกลับกันหากผลงานแย่รัฐบาลชุดนี้ก็ไปเร็ว พันธมิตรก็ไม่ยอมให้อยู่อย่างแน่นอน
ดร.เลิศชาย ศิริชัย อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในฐานะผู้ปราศรัยหลักบนเวทีพันธมิตรฯ นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นต่อโผ ครม.อภิสิทธิ์ 1 ว่า แต่เดิมนั้นสังคมค่อนข้างให้โอกาสสำหรับ ครม.อภิสิทธิ์ สูง แต่โผ ครม.ที่เห็นหน้าค่ากันแบบที่เป็นข่าวต้องบอกว่าความหวังที่มีเต็มเปี่ยมอย่างน้อยได้หายไปแล้วครึ่งหนึ่งทีเดียว ยิ่งมีเสียงของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค พูดทำนอง “ถ้าไม่มีเขาเราจัดรัฐบาลไม่ได้” ยิ่งทำให้ผู้ที่มีความคาดหวังท้อแท้ไปมาก หน้าตา ครม.ที่ออกมา ประชาธิปัตย์เกือบที่จะไม่ได้ทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ไม่ได้ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่แล้วๆ มา หรือไม่ต่างอะไรกับคำพูดที่ว่าเก่งแค่ตีฝีปาก แต่มองประชาชนเป็นคนโง่เหมือนเดิมด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าต้องรอดูผลงาน มาถึงวันนี้การดูนั้นต้องเริ่มดูกันตั้งแต่ตั้ง ครม.ไม่ใช่ดูผลงานเท่านั้น
“ผมเชื่อว่า หากรัฐบาลเป็นไปในรูปแบบเช่นนี้เชื่อว่าจะไปได้ไม่ยาว เท่าที่ดูนั้นช่วงแรกภาคเอกชน เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ต่างให้กำลังใจ มาถึงวันนี้กับเหตุผลที่นายสุเทพใช้เหมือนกับตบหน้าประชาชนปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้แก้ ข้อเสนอที่เข้ามาต่างก็แฝงไปด้วยความขัดแย้งรัฐบาลจึงทำงานยาก ใจที่หนุนให้รัฐบาลจึงลดลงไปมาก” ดร.เลิศชาย กล่าว
ขณะที่ นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดใต้ เปิดเผยว่า เท่าที่ติดตามนั้นพอที่จะดูได้ตามสมควร แต่ที่สำคัญนั้นต้องติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดของ ครม.ทั้งคณะ ถ้าทานกันอย่างชัดเจนเชื่อว่าประชาชนจะให้การยอมรับ มาถึงวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าสังคมไม่ได้กังวลกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เนื่องจากต่างเห็นได้ชัดว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างขาดสติ ขาดเหตุผล กลายเป็นการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น ตรงนี้สังคมจะเป็นแรงบีบกลับไปยังกลุ่มเสื้อแดงเอง อีกอย่างสังคมกำลังติดตามผลงานของรัฐบาลอยู่เช่นกันถ้าผลงานดีเชื่อว่าอยู่ยาว แต่ในทางกลับกันหากผลงานแย่รัฐบาลชุดนี้ก็ไปเร็ว พันธมิตรก็ไม่ยอมให้อยู่อย่างแน่นอน