ตรัง – เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.ย่านตาขาวจังหวัดตรังได้ควมคุมตัว 3 เยาวชน ก่อเหตุขโมยยางแผ่นดิบของชาวบ้าน แล้วนำไปจำหน่าย
วันนี้ (19 ธ.ค.) ร.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้รับส่งตัว 3 ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบจากตำรวจ สภ.ย่านตาขาว หลังทั้ง 3 คน หลังก่อเหตุลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโพรงจระเข้ แล้วนำไปจำหน่าย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังเป็นเยาวชน ประกอบด้วย นายสุรศักดิ์ สงอร่าม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว, นายมานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ชาวหมู่ที่ 1 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว และเด็กชายถาวร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ชาวหมู่ที่ 5 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2251 ที่ผ่านมา เยาวชนทั้ง 3 คนได้บรรทุกยางพาราแผ่นดิบตรวจนับได้ภายหลังทั้งหมด 87 แผ่น ไปจำหน่ายที่ร้านรับซื้อยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว ปรากฏว่าเจ้าของยางพาราที่หายไปสงสัยในพฤติกรรมของเด็กทั้ง 3 คน จึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งพบว่าทั้ง 3 คนนำยางพาราแผ่นดิบไปจำหน่าย จึงรุดไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ จุดตรวจตำบลทุ่งค่าย นำโดย ด.ต.สิงหราช วังโยธา และกำลังอีก 4 นาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และจับกุมตัวทั้ง 3 คนไว้ได้ พร้อมของกลางยางพาราทั้งหมด 87 แผ่น รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะขนส่ง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวน จากนั้นได้ส่งตัวให้ ร.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านในควน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาได้มีผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายหมัดเกต ฤทธิ์หมุน ยุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 จำนวนยางพาราที่หายไป 18 แผ่น กับนางสุนีย์ นานช้า อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ยางพาราที่หายไปจำนวน 72 แผ่น ทั้งหมดเป็นชาวหมู่ที่ 6 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งจากการสอบสวนเยาวชนทั้ง 3 คน ซึ่งไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว ให้การรับสารภาพว่า ในเวลาประมาณ 22.30 น. ของคืนวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ลักลอบเข้าไปขโมยยางพาราแผ่นดิบของนางสุนีย์คนเดียวเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปขโมยที่บ้านของนายหมัดเกตแต่อย่างใด
นางสุนีย์ ยืนยันว่า ของกลางที่ยึดได้นั้นเป็นของตนเองจำนวน 72 แผ่น ตามที่หายไป ส่วนของกลางที่เหลืออีกจำนวน 15 แผ่น นั้นไม่ได้เป็นของนายหมัดเกต ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบต่อไปว่า คนร้ายมีแก๊งเดียวหรือไม่ หรือเป็นไปได้ว่าของกลางของนายหมัดเกตนั้น ทางเจ้าหน้าที่อาจจะยึดมาไม่หมด หรือหากมีผู้เสียหายคนอื่นที่ถูกลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบให้ไปแจ้งความเพิ่มเติมได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้ควยคุมตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
วันนี้ (19 ธ.ค.) ร.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้รับส่งตัว 3 ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบจากตำรวจ สภ.ย่านตาขาว หลังทั้ง 3 คน หลังก่อเหตุลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโพรงจระเข้ แล้วนำไปจำหน่าย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังเป็นเยาวชน ประกอบด้วย นายสุรศักดิ์ สงอร่าม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว, นายมานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ชาวหมู่ที่ 1 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว และเด็กชายถาวร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ชาวหมู่ที่ 5 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2251 ที่ผ่านมา เยาวชนทั้ง 3 คนได้บรรทุกยางพาราแผ่นดิบตรวจนับได้ภายหลังทั้งหมด 87 แผ่น ไปจำหน่ายที่ร้านรับซื้อยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว ปรากฏว่าเจ้าของยางพาราที่หายไปสงสัยในพฤติกรรมของเด็กทั้ง 3 คน จึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งพบว่าทั้ง 3 คนนำยางพาราแผ่นดิบไปจำหน่าย จึงรุดไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ จุดตรวจตำบลทุ่งค่าย นำโดย ด.ต.สิงหราช วังโยธา และกำลังอีก 4 นาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และจับกุมตัวทั้ง 3 คนไว้ได้ พร้อมของกลางยางพาราทั้งหมด 87 แผ่น รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะขนส่ง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวน จากนั้นได้ส่งตัวให้ ร.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านในควน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาได้มีผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายหมัดเกต ฤทธิ์หมุน ยุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 จำนวนยางพาราที่หายไป 18 แผ่น กับนางสุนีย์ นานช้า อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ยางพาราที่หายไปจำนวน 72 แผ่น ทั้งหมดเป็นชาวหมู่ที่ 6 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งจากการสอบสวนเยาวชนทั้ง 3 คน ซึ่งไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว ให้การรับสารภาพว่า ในเวลาประมาณ 22.30 น. ของคืนวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ลักลอบเข้าไปขโมยยางพาราแผ่นดิบของนางสุนีย์คนเดียวเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปขโมยที่บ้านของนายหมัดเกตแต่อย่างใด
นางสุนีย์ ยืนยันว่า ของกลางที่ยึดได้นั้นเป็นของตนเองจำนวน 72 แผ่น ตามที่หายไป ส่วนของกลางที่เหลืออีกจำนวน 15 แผ่น นั้นไม่ได้เป็นของนายหมัดเกต ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบต่อไปว่า คนร้ายมีแก๊งเดียวหรือไม่ หรือเป็นไปได้ว่าของกลางของนายหมัดเกตนั้น ทางเจ้าหน้าที่อาจจะยึดมาไม่หมด หรือหากมีผู้เสียหายคนอื่นที่ถูกลักทรัพย์ยางพาราแผ่นดิบให้ไปแจ้งความเพิ่มเติมได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้ควยคุมตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว