ยะลา - ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปผลงานตำรวจชายแดนใต้ ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงมาก ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกๆ หน่วย ในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ เพิ่มมาตรการความเข้มในการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับหัวหน้าหน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อ.ของจังหวัดสงขลา มาร่วมกันประชุมเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนปี 2551 ที่ผ่านมา รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการข่าวเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบและแนวโน้มสถานการณ์ในปี 2552 ที่จะมาถึง ตลอดทั้งติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความมั่นคงที่สำคัญต่างๆ ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้มอบประกาศเกียรติคุณดีเด่นประจำ 2551 แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย
พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากสถิติคดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2547 - 1 ธ.ค.2551 ระยะเวลา 4 ปี 11 เดือน พบว่า มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 6,103 คดี แยกเป็นคดีที่ไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด 4,857 คดี หรือร้อยละ 79.58 และทราบตัวผู้กระทำความผิดจำนวน 1,246 คดี หรือ คิดเป็นร้อยละ 20.42
ในส่วนที่ทราบตัวผู้กระทำความผิด แยกเป็นรู้ตัวผู้กระทำความผิดและจับได้ จำนวน 892 คดี รู้ตัวผู้กระทำความผิดและถูกวิสามัญ จำนวน 82 คดี รู้ตัวผู้กระทำความผิดและอยู่ระหว่างหลบหนี จำนวน 354 คดี นอกจากนี้ ยังมีคำพิพากษาคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีผลคำพิพากษาแล้วจำนวน 154 คดี มีจำเลย จำนวน 228 คน ถูกพิพากษาลงโทษ จำนวน 102 คดี มีจำเลย จำนวน 157 คน ศาลยกฟ้อง จำนวน 52 คดี มีจำเลย จำนวน 51 คน สั่งจำคุกตลอดชีวิต จำนวน 26 คดี และสั่งจำคุก 50 ปี ลงมา จำนวน 61 คดี
พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ยังกล่าวอีกว่า จากการประเมินสถานการณ์การก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา โดยเฉพาะการก่อเหตุร้ายรายวัน ทางเจ้าหน้าที่พบว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ลดระดับลงมาอยู่ในระดับที่เบาบาง
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุก ๆ หน่วย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ เพิ่มมาตรการความเข้มในการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้ทุกหน่วยกำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม และให้ความเสมอภาคกับพี่น้องประชาชนทุกๆ คน
