สตูล - ชาวบ้านกว่า 30 คนแจ้งจับป่าไม้ยึดดินสวน 100 ไร่ ปลูกป่าชายเลน อ้างมีเอกสารสิทธิครอบครองครบ ป่าไม้ยันเป็นป่าสงวนฯ ไม่มีใครครอบครอง
วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านร่วม 30 คนนำโดยนายพชร กฤษณาสกุล อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 254 ถ.ติรสถิต อ.เมืองสตูล เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อภิชาติ กุลโรจน์ศิริ พงส.สบ.1 สภ.เมืองสตูล ถึงกรณีศูนย์ประสานงานทรัพยากรป่าไม้ จ.สตูล พร้อมชุดป่าชายเลน นำเจ้าหน้าที่บุกรุกแผ้วถางสวนของชาวบ้านที่ได้ปลูกต้นมะพร้าว และต้นจากกว่า 100 ไร่ได้รับความเสียหายที่บริเวณใกล้ถนนสายบายพาส หมู่ 3 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล
นายจักรพันธ์ ขุนพิทักษ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 285 หมู่ 3 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล อาชีพก่อสร้าง บอกว่า ตนมีที่ดินทำกินในครอบครัวอยู่ 9 ไร่ ที่ใช้ประโยชน์จากการต้นจาก และปลูกมะพร้าวขาย โดยครอบครองผืนดินดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายายร่วม 100 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีหนังสือเอกสารสิทธิ ส.ก.1 และใบกำกับเสียภาษีให้กับทางเทศบาลเมืองสตูลทุกปีโดยจะมีใบเสร็จเก็บไว้ด้วยทุกครั้ง แล้วจู่ๆ ทางป่าไม้มาชี้แนวเขตและอ้างว่าจะใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้และพร้อมจะร้องเอาผิดเพราะพวกตนได้ครอบครองมานาน
โดยหลังรับแจ้งลงบันทึก ชาวบ้านจะนำเจ้าหน้าที่ลงดูพื้นที่ของชาวบ้านที่อ้างว่าถูกทำลายเพื่อเป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
นายสุวัฒก์ หิรัญตระกา หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าชายเลนที่ 9 จ.สตูล ชี้แจงว่า ก่อนนำเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อเตรียมทำโครงการ “พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติ” ในวันที่ 18 ธันวาคม นี้นั้นเพื่อปลูกป่าชายเลนในผืนดินดังกล่าว ทางป่าไม้และป่าชายเลนได้บรูณาการหลายฝ่ายในการร่วมมือกันตรวจสอบแล้วว่า ดินดังกล่าวเป็นป่าสงวนและไม่มีใครครอบครองหรือเป็นเอกสารสิทธิ์ตามที่ชาวบ้านกล่าวอ้าง และก่อนดำเนินการได้พูดคุยกับชาวบ้านแล้วและที่ชาวบ้านอ้างว่า ต้นมะพร้าวและต้นจากถูกตัดด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่นั้นยืนยันได้ว่ายังไม่มีการตัดหรือโค่นดังกล่าว อาจเป็นชาวบ้านที่ตัดกันเอง โดยทางป่าไม้ก็พร้อมจะยืนยันในการทำหน้าที่ที่ถูกต้องให้ชาวบ้านตรวจสอบได้ และการตรวจสอบทางป่าไม้ยังพบว่ามีนายทุน และนักการเมืองบางกลุ่มเข้ามาครอบครองและพยายามสวมสิทธิ์โดยให้ชาวบ้านเป็นคนเดินเรื่องบังหน้า
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพร้อมจะดำเนินการทำโครงการ “พลิกฟืนผืนป่าเฉลิมพระเกียรติ” มีจำนวนทั้งสิ้น 100 ไร่ โดยในรอบแรกจะทำการปลูกป่าชายเลนก่อน 30 ไร่เพื่อนำร่อง