ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – หลังสิ้นสุดการชุมนุมที่ทำเนียบฯ พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดสงขลา ยังคงติดตามข่าวสารการเมืองผ่าน ASTV อย่างต่อเนื่อง วอนทุกคนช่วยเป็น “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ต่อไป และขอให้กำลังใจพันธมิตรฯ ทั่วประเทศในร่วมกันเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประเทศชาติต่อ และคิดถึงซึ่งกันและกัน พร้อมยังหวังให้รัฐบาลชุดใหม่แก้ปัญหาความไม่สงบเพื่อช่วยเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนใต้กระเตื้องขึ้น
การยุติการชุมนุมใหญ่ ณ กรุงเทพฯ ทำให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั่วประเทศต่างเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบอาชีพ เช่นเดียวกับพันธมิตรสงขลเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ร่วมต่อสู้ครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่ตลาดกิมหยงและสันติสุข ท่ามกลางความรู้สึกที่เหมือนบางสิ่งขาดหายไป
นางพรดี แซ่อวง แม่ค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ปกติติดตามการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรฯเกือบตลอดวัน และมีโอกาสไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ด้วยถึง 2 ครั้ง แม้ว่าการชุมนุมหยุดลง แต่ความตื่นตัวเรื่องข้อมูลข่าวสารทางการเมืองมิได้หยุดตาม
“ตอนนี้พันธมิตรฯ ชนะแล้ว ยังอยากติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองอยู่ และอยากให้ทางช่อง ASTV มีรายการที่นำเสนอสาระความรู้เป็นหลัก เช่น การต่อสู้ของคนที่ประกอบอาชีพต่างๆ กว่าเขาจะประสบความสำเร็จในชีวิต จะได้นำมาเป็นตัวอย่างและสร้างกำลังใจในการประกอบอาชีพ ตอนนี้การค้าขายไม่ดี เศรษฐกิจตกต่ำ อยากจะฝากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และหวังว่าประเทศไทยจะพัฒนาให้ดีกว่านี้” นางพรดีกล่าว
ด้าน นายจรัญ จันทสุวรรณ เจ้าของร้านขายของเล่นที่ตลาดกิมหยง กล่าวว่า ชอบรายการของ ASTV อย่างมาก ติดตามความเคลื่อนไหวของการเมืองและการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ มาโดยตลอด ตอนนี้ถึงแม้จะไม่มีการต่อสู้แล้ว อยากจะบอกพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศว่าทุกคนทำหน้าที่ดีแล้ว เป็นการปกป้องประเทศจากรัฐบาลชั่ว และขอสรรเสริญ รำลึกถึงพันธมิตรฯทุกคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
นายวิชิต เกียรติพิงพร อาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตลาดกิมหยง เปิดเผยว่า ตนจะเป็นแฟนตัวจริงของ ASTV ต่อไปเรื่อยๆ ชอบฟังข่าวการเมือง ทำให้รู้ทันรัฐบาลมากขึ้น
“อยากจะบอกพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศว่าคิดถึง และเป็นห่วงพี่น้องพันธมิตรฯที่บาดเจ็บทุกคน เชื่อว่าการต่อสู้ของทุกคนจะสามารถสร้างประโยชน์ที่ดีให้แก่ประเทศได้ และคิดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเป็นตัวแทนของประชาชนที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก” นายวิชิตกล่าว
ด้านพันธมิตรฯ กู้ชาติในตลาดสินติสุข ก็ไม่น้อยหน้า นายชาตรี แซ่หลี อาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าวว่า ตนมีความภูมิใจมากที่เกิดในประเทศไทย ประเทศที่มีพ่อที่ดีมีในหลวงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทุกคน ขอบคุณน้ำใจพันธมิตรฯทุกคนที่สู้เพื่อพ่อ
พันธมิตรฯ ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญชิ้นยิ่งใหญ่ของพ่อหลวง และปวงชนชาวไทยทุกคน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ตนได้ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรกับพันธมิตรสงขลาฯทุกคนที่ ลานประวัติศาสตร์ชุมทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ และอยากให้มี ASTV อยู่เป็นหูเป็นตา เป็นยามเฝ้าแผ่นดินไปตลอด
นางพิสะชา ขวัญทอง อาชีพขายน้ำหอมที่ตลาดสันติสุข กล่าวว่าฟังข่าวจาก ASTV แล้วมีความรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น เป็นสื่อที่กล้านำเสนอข่าวที่เป็นความจริง เปรียบเสมือนน้ำล้างตา ทำให้ตนตาสว่างขึ้นมาก เพราะปกติประชาชนที่ติดตามข่าวสารมักโดนบิดเบือนโดยที่ไม่มีโอกาสพิสูจน์ความจริง ASTV จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ตนให้ความเชื่อถือ และอยากให้เป็นสื่อเพื่อประชาชนเป็นหลัก
“ตอนนี้ชอบเกี่ยวกับรายการข่าว และเรื่องราวของพันธมิตรฯผู้กล้าทุกคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวม ที่อยากจะฝากกับประชาชนทั้งประเทศว่าถ้าทุกคนไม่เห็นแก่ตัว สังคมก็จะเจริญขึ้น” นางพิสะชากล่าว
ด้าน นายภาคิม ภูธนะธีรากุล อาชีพขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตลาดสันติสุข กล่าวว่า อยากให้ ASTV มีรายการประเภทข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ และเน้นรายการสารคดีทางการเมือง เพราะทำให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองเพิ่มมากยิ่งขึ้น ยิ่งในช่วงนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจข่าวการเมืองมาก
“การค้าขายในช่วงที่ผ่านมาซบเซา เนื่องจากปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดที่ส่งผลมาตลอด อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดให้กลับสู่ภาวะปกติ เพราะตนเชื่อว่าการค้าขายใน อ.หาดใหญ่ จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง” นายภาคิมกล่าวทิ้งท้าย