ยะลา - บรรยากาศการละหมาดซูน๊ะห์ วันรายาฮัจญ์ ในยะลาคึกคัก ถึงแม้ว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ในขณะผู้นำศาสนาอัญเชิญคุตบ๊ะห์ หัวข้อความสำคัญของการกุรบ่าน และ ความสันติสุขในพื้นที่
ที่มัสยิดหัวสะพานสะเตง อ.เมืองยะลา มีชาวไทยมุสลิม กว่า 500 คน เดินทางร่วมละหมาดซุนน๊ะห์วันตรุษอิดิ้ลอัฎฮา หรือวันรายาฮัจยี ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่กลางดึกเป็นต้นมา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจับมือขออภัยซึ่งกันและกันที่ได้ละล่วงเกิน ทั้งกาย วาจา ใจ ในรอบปีที่ผ่านมา เนื่องจากการขออภัยซึ่งกันและกันในวันนี้ พระผู้เป็นเจ้าจะให้อภัยโทษแก่ทุกคนที่จับมือขออภัยกัน
คุตบะห์ หรือการอัยเชิญเทศนาธรรมะในวันรายาปีนี้ ทางคณะกรรมการมัสยิด โดยนายอดิศร ตาเปาะโต๊ะ กรรมการมัสยิด ได้อัญเชิญเทศนาธรรมะในหัวข้อ ความสำคัญของการทำกุรบ่าน ซึ่งได้บรรยายอย่างละเอียดถึงการทำกุรบ่านว่า การกุรบ่านนั้นมีทั้งการกุรบ่านฆ่าสัตว์พลีทาน เพื่อนำเนื้อไปแจกจ่ายให้กับคนยากคนจน และการกุรบ่านแรงกาย แรงใจและทรัพย์สิน ในการให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ในโลกนี้
ขณะเดียวกัน ต้องละเว้นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาทุกกรณีด้วย นอกจากนี้ผู้บรรยายเทศนาธรรม ได้ย้ำถึงความสามัคคี การไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน และการให้ความธรรมระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วย ในระหว่างการบรรยายเทศนาธรรม นั้น ผู้ร่วมละหมาดบางคนได้สำนึกในความผิดได้กระทำมาในห้วงที่ผ่านมาถึงกับน้ำตานองหน้า เนื่องจากเกรงกลัวต่อบาปที่ได้ก่อไว้และตั้งจิตอธิษฐานจะไม่กระทำการใดๆ ที่ผิดกับหลักศาสนากันอีกต่อไป
นายอดิศร ตาเปาะโต๊ะ กรรมการมัสยิดหัวสะพาน สะเตง อ.เมืองยะลา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวมุสลิม และมีความสุขมาที่ได้มาพบปะเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ ในขณะเดียวกันได้จับมือขออภัยซึ่งกันและกัน ในการที่กระทำบาปต่างๆนานา ต่อกัน เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะให้อภัยให้กับผู้ที่จับมือขออภัยซึ่งกันและกันในวันนี้ นอกจากนี้หลังละหมาดเสร็จ นอกจากไปพบปะเยี่ยมเยียนกันแล้ว ทุกคนจะไปเยี่ยมกุโบร์หรือสุสาน เพื่อขอดุอาร์ให้กับบรรพบุรุษที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากว่าการอ่านดุอาร์ในวันนี้จะมีผลบุญมากที่สุด
ที่มัสยิดหัวสะพานสะเตง อ.เมืองยะลา มีชาวไทยมุสลิม กว่า 500 คน เดินทางร่วมละหมาดซุนน๊ะห์วันตรุษอิดิ้ลอัฎฮา หรือวันรายาฮัจยี ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่กลางดึกเป็นต้นมา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจับมือขออภัยซึ่งกันและกันที่ได้ละล่วงเกิน ทั้งกาย วาจา ใจ ในรอบปีที่ผ่านมา เนื่องจากการขออภัยซึ่งกันและกันในวันนี้ พระผู้เป็นเจ้าจะให้อภัยโทษแก่ทุกคนที่จับมือขออภัยกัน
คุตบะห์ หรือการอัยเชิญเทศนาธรรมะในวันรายาปีนี้ ทางคณะกรรมการมัสยิด โดยนายอดิศร ตาเปาะโต๊ะ กรรมการมัสยิด ได้อัญเชิญเทศนาธรรมะในหัวข้อ ความสำคัญของการทำกุรบ่าน ซึ่งได้บรรยายอย่างละเอียดถึงการทำกุรบ่านว่า การกุรบ่านนั้นมีทั้งการกุรบ่านฆ่าสัตว์พลีทาน เพื่อนำเนื้อไปแจกจ่ายให้กับคนยากคนจน และการกุรบ่านแรงกาย แรงใจและทรัพย์สิน ในการให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ในโลกนี้
ขณะเดียวกัน ต้องละเว้นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาทุกกรณีด้วย นอกจากนี้ผู้บรรยายเทศนาธรรม ได้ย้ำถึงความสามัคคี การไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน และการให้ความธรรมระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วย ในระหว่างการบรรยายเทศนาธรรม นั้น ผู้ร่วมละหมาดบางคนได้สำนึกในความผิดได้กระทำมาในห้วงที่ผ่านมาถึงกับน้ำตานองหน้า เนื่องจากเกรงกลัวต่อบาปที่ได้ก่อไว้และตั้งจิตอธิษฐานจะไม่กระทำการใดๆ ที่ผิดกับหลักศาสนากันอีกต่อไป
นายอดิศร ตาเปาะโต๊ะ กรรมการมัสยิดหัวสะพาน สะเตง อ.เมืองยะลา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวมุสลิม และมีความสุขมาที่ได้มาพบปะเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ ในขณะเดียวกันได้จับมือขออภัยซึ่งกันและกัน ในการที่กระทำบาปต่างๆนานา ต่อกัน เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะให้อภัยให้กับผู้ที่จับมือขออภัยซึ่งกันและกันในวันนี้ นอกจากนี้หลังละหมาดเสร็จ นอกจากไปพบปะเยี่ยมเยียนกันแล้ว ทุกคนจะไปเยี่ยมกุโบร์หรือสุสาน เพื่อขอดุอาร์ให้กับบรรพบุรุษที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากว่าการอ่านดุอาร์ในวันนี้จะมีผลบุญมากที่สุด