ตรัง - เหตุคนร้ายลอบยิง ส.ท.สิเกา ยันแต่ไม่ได้เกิดมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน ปัญหาความขัดแย้งน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่า
วันนี้ (7 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสันติ แก้วสมศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ที่ 1 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ต.สิเกา สังกัดอิสระ ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ได้ถูก 2 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้าประกบ บริเวณหน้าตลาดนัดเทศบาลตำบลสิเกา แล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้า 4-5 นัด กระสุนทะลุเข้าที่ลำตัว 2 นัด แต่นายสันติ ก็ยังพยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จนคนร้ายไม่อาจจะขี่รถไล่ตามมาเพื่อที่จะยิงซ้ำได้สำเร็จ เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 นั้น
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2551 ร.ต.ท.แดง ศรีสมบูรณ์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.สิเกา กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น พบว่า นายสันติ ผู้บาดเจ็บ ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไรกับผู้ใด นอกจากเป็นคนสนิทของ นายอุดม มั่นซิ้ว อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง เขต อ.สิเกา สมัยที่ผ่านมา โดยการไปช่วยขับรถ รวมทั้งไปช่วยเป็นนายหน้ารับเหมางานต่างๆ ดังนั้น เชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว แต่มิได้เกิดมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
นายสุเมธ รอดรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลสิเกา กล่าวว่า โดยนิสัยส่วนตัวของ นายสันติ ผู้บาดเจ็บ ถือเป็นคนดีคนหนึ่ง จึงได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในพื้นที่ แต่เนื่องจากตนเองไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายนัก จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหวส่วนตัว เพราะเพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยแรกเช่นกัน และล่าสุด ก่อนเกิดเหตุ นายสันติ ก็เพิ่งจะมานั่งปรึกษาหารือกันเอง ร่วมกับบรรดา ส.ท.ตำบลสิเกา ทั้ง 12 คน ถึงเรื่องแนวทางในการพัฒนาพื้นที่เทศบาล ซึ่งตนเองก็ไม่เห็นว่า นายสันติ จะมีปัญหาไม่สบายใจอะไร
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ท.ตำบลสิเกา ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นายสันติ ผู้บาดเจ็บ อยู่คนละทีมกับตนเอง และลงสมัครในนามอิสระ แต่ในพื้นที่เทศบาลตำบลสิเกาช่วงที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นเกิดขึ้น แม้ในช่วงการหาเสียงจะมีการแข่งขันกัน แต่ทุกคนก็เคารพในการตัดสินใจของประชาชน และหลังจบการเลือกตั้งแล้ว ทุกคน ทุกทีม ก็มาทำงานร่วมกัน และมีการปรึกษาโครงการต่างๆ ตลอดมา จึงยืนยันได้ว่ากรณีที่ นายสันติ ถูกลอบยิงในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน