ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านห่วงคราบน้ำมัน-ชายหาดถูกกัดเซาะ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเข้มงวดเรือลักลอบปล่อยน้ำมันลงทะเล
นายสุธา ประทีป ณ ถลาง ประธานเครือข่ายชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาคราบน้ำมัน และชายหาดถูกกัดเซาะบริเวณอ่าวฉลองจังหวัดภูเก็ต ว่า ขณะนี้บริเวณอ่าวฉลองมีปัญหาเรื่องของคราบน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมากสาเหตุ เนื่องจากขณะนี้มีเรือเข้ามาจอดที่บริเวณอ่าวฉลองจำนวนมาก
นอกจากจะมีเรือท่องเที่ยวที่เข้ามาจอดเป็นประจำแล้ว ยังมีเรือประมงพาณิชย์และเรืออื่นๆเข้ามาจอดจำนวนมาก เรือบางลำมีการลังลอบถ่ายน้ำมันลงทะเล ทำให้บริเวณอ่าวฉลองมีครามน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมาก เกรงว่าคราบน้ำมันที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต่อสิ่งแวดล้อมและกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งอาจจะได้รับสารพิษเข้าไปและมีสารพิษตกค้างในตัวปลาได้ ซึ่งเมื่อคนนำไปรับประทานก็อาจจะได้รับสารพิษไปด้วย
ในส่วนของชาวบ้านนั้นอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาดูแล และเอาจริงเอาจังในการเข้มงวดเรื่องของการลักลอบปล่อยน้ำมันลงทะเล เพราะถ้ามีการปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองก็จะต้องมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยไม่ใช่คิดถึงแต่ความสะดวกของตัวเองโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา
นายสุธา กล่าวต่อไปว่า นอกจากปัญหาเรื่องของคราบน้ำมันแล้วที่บริเวณอ่าวฉลองยังมีปัญหาเรื่องของการกัดเซาะชายหาดที่เริ่มเกิดขึ้นอย่างรุนแรงใน 1-2 ปี ที่ผ่านมาหลังจากมีการสร้างสะพานและท่าเทียบเรือ รวมทั้งการขุดลอกร่องน้ำ ซึ่งพบว่าขณะนี้ชายหาดของอ่าวฉลองถูกกัดเซาะไปแล้วประมาณ 60-70 ซม. ถ้ามีการขุดลอกและสร้างท่าเทียบเรือเพิ่มเชื่อว่าการกัดเซาะชายหาดที่อ่าวฉลองจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องของการทำลายป่าชายเลนที่บริเวณอ่าวฉลอง นายสุธา กล่าวว่าในช่วงที่มีการทำเหมืองแรป่าไม้ชายเลนที่บริเวณอ่าวฉลองถูกทำลายไปแล้วประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,000 ไร่ และขณะนี้มีป่าชายเลนถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 500 ไร่ ซึ่งเรื่องนี้ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้ร่วมมือกันดูแลมาโดยตลอด แต่การถูกทำลายนั้นยังมีเกิดขึ้น
นายสุธา ประทีป ณ ถลาง ประธานเครือข่ายชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาคราบน้ำมัน และชายหาดถูกกัดเซาะบริเวณอ่าวฉลองจังหวัดภูเก็ต ว่า ขณะนี้บริเวณอ่าวฉลองมีปัญหาเรื่องของคราบน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมากสาเหตุ เนื่องจากขณะนี้มีเรือเข้ามาจอดที่บริเวณอ่าวฉลองจำนวนมาก
นอกจากจะมีเรือท่องเที่ยวที่เข้ามาจอดเป็นประจำแล้ว ยังมีเรือประมงพาณิชย์และเรืออื่นๆเข้ามาจอดจำนวนมาก เรือบางลำมีการลังลอบถ่ายน้ำมันลงทะเล ทำให้บริเวณอ่าวฉลองมีครามน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมาก เกรงว่าคราบน้ำมันที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต่อสิ่งแวดล้อมและกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งอาจจะได้รับสารพิษเข้าไปและมีสารพิษตกค้างในตัวปลาได้ ซึ่งเมื่อคนนำไปรับประทานก็อาจจะได้รับสารพิษไปด้วย
ในส่วนของชาวบ้านนั้นอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาดูแล และเอาจริงเอาจังในการเข้มงวดเรื่องของการลักลอบปล่อยน้ำมันลงทะเล เพราะถ้ามีการปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองก็จะต้องมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยไม่ใช่คิดถึงแต่ความสะดวกของตัวเองโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา
นายสุธา กล่าวต่อไปว่า นอกจากปัญหาเรื่องของคราบน้ำมันแล้วที่บริเวณอ่าวฉลองยังมีปัญหาเรื่องของการกัดเซาะชายหาดที่เริ่มเกิดขึ้นอย่างรุนแรงใน 1-2 ปี ที่ผ่านมาหลังจากมีการสร้างสะพานและท่าเทียบเรือ รวมทั้งการขุดลอกร่องน้ำ ซึ่งพบว่าขณะนี้ชายหาดของอ่าวฉลองถูกกัดเซาะไปแล้วประมาณ 60-70 ซม. ถ้ามีการขุดลอกและสร้างท่าเทียบเรือเพิ่มเชื่อว่าการกัดเซาะชายหาดที่อ่าวฉลองจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องของการทำลายป่าชายเลนที่บริเวณอ่าวฉลอง นายสุธา กล่าวว่าในช่วงที่มีการทำเหมืองแรป่าไม้ชายเลนที่บริเวณอ่าวฉลองถูกทำลายไปแล้วประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,000 ไร่ และขณะนี้มีป่าชายเลนถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 500 ไร่ ซึ่งเรื่องนี้ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้ร่วมมือกันดูแลมาโดยตลอด แต่การถูกทำลายนั้นยังมีเกิดขึ้น
