พัทลุง – จังหวัดพัทลุงหลายพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำหลังฝนตกติต่อกันหลายวัน ควายทะเลเสียชีวิตไปแล้วกว่า 30 ตัว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งออกให้การช่วยเหลือ ความเสียหายเบื้องต้น ไม่ตำกว่า 339 ล้านบาท
วันนี้ (30 พ.ย.) ฝนที่ยังตกหนักเกือบทุกพื้นที่ จ.พัทลุง ได้เกิดฝนตกและเกิดพายุพัดแรงบริเวณหลัง รพ.พัทลุง ทำให้ต้นไทรขนาดใหญ่ขนาด 3 คนโอบ ซึ่งอยู่ในบ้านพักของ นางนงลักษณ์ จินตะเวช อายุ 52 ปี เสมียนตราจังหวัดพัทลุง ได้ล้มทับบ้านพักของพนักงาน อบจ.พัทลุง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านพักหลังดังกล่าว จนทำให้บ้านพักพังยับเยิน 5 ห้อง รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ทะเบียน 1666 สงขลา และรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บจ-1539 ตรัง ของนางอุษา ไพโรจน์ อายุ 47 ปี เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบจ.พัทลุง ซึ่งจอดไว้ในโรงเก็บรถหน้าบ้านพักเสียหายพังยับเยินทั่ง 2 คัน
นอกจากนั้นต้นไทรยักษ์ยังล้มไปทับโรงช่างไม้ใน รพ.พัทลุง ซึ่งติดกันได้รับความเสียหาย 1 หลัง หลังเกิดเหตุ พ.ต.โกมล ทองพันธ์ นายทหารซ่อมบำรุงเครื่องมือของทหารช่าง ช.402 ค่ายศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ได้นำกำลังพล และรถเครนออกไปให้การช่วยเหลือแล้ว
ในส่วนของพื้นที่ ต.ทะเลน้อย ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน ขณะนี้ควาย กว่า 3,000 ตัว ว่ายน้ำหนีตายขึ้นเกาะ ล่าสุดพบเสียชีวิตแล้วกว่า 30 ตัว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งออกให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน
ทางด้าน นายสุพิษ บัวเพชร อายุ 60 ปี เจ้าของควายทะเล อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 4 ตำบลพะนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงความทะเลขายมานานกว่า 20 ปี โดยเลี้ยงไว้ประมาณ 60 ตัว และมีลูกควายที่เพิ่งคลอดใหม่อายุ 2 สัปดาห์ ประมาณ 30 ตัว แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว จำนวน 2 ตัว เนื่องจากอากาศหนาวเย็น และอดอาหาร เนื่องจากลูกควายทะเลตัวเล็กไม่สามารถลงดำน้ำตามแม่ไปกินหญ้าได้ นอกจากนี้ยังพบว่า ควายทะเลส่วนหนึ่งกำลังเป็นโรคระบาดคือโรคตาแดง
ด้าน นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้ทางตนได้จัดส่งสัตวแพทย์เคลื่อนที่ลงไปพิสูจน์ซากสัตว์ และให้การรักษาพยาบาลฝูงสัตว์ดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้จะมีการเตรียมแผนงาน เพื่อเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและควายทะเลในระยาวต่อไป
จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ 11 อำเภอของจังหวัดพัทลุง ยังจมอยู่ใต้น้ำ เส้นทางคมนาคมหลายสาย พื้นที่ทางด้านการเกษตร บ้านเรือนราษฎร ได้รับความเสียหาย โดยล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ประเมินความเสียหายเบื้องต้น ไม่ตำกว่า 339 ล้านบาท
