ยะลา - นายอำเภอเบตงสั่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม 24ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขาและอยู่ใกล้แม่น้ำ หลังลมมรสุมและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ในภาคใต้พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลงสำรวจและให้ความรู้กับประชาชน เตรียมเรือท้องแบนไว้รองรับทุกพื้นที่ โดยที่ผ่านมาพบน้ำท่วมหนักสุดในพื้นที่ตำบลเบตง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (30 พ.ย.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตงสั่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และดิน-โคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง และให้เตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดอุทกภัยขึ้น นายดลเดช กล่าวว่า ภายหลังที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลาจึงได้มอบนโยบายเร่งด่วน ให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันอำเภอเบตง และกองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง เพื่อให้มีการเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัย เช่น น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดิน-โคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เนื่องจากอำเภอเบตงมีพื้นที่เสี่ยงภัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหล และพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วม จะต้องมีการเฝ้าระวังและออกสำรวจเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้มีลมมรสุมและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้กำชับให้มีการจัดเจ้าหน้าที่และเตรียมอุปกรณ์การช่วยเหลือไว้ให้พร้อมตลอด 24ชั่วโมง เพราะหากเกิดอุทกภัยขึ้นจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน
“เรามีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัย ไม่ว่าจะเป็นการเกิดน้ำท่วม ดิน-โคลนถล่ม ซึ่งล้วนแต่สร้างความเสียหายทั้งสิ้น ดังนั้นผมจึงเดินทางมาเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่แต่ละตำบลทั้ง 5 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลเบตง ตำบลยะรม ตำบลธารน้ำทิพย์ ตำบลตาเนาะแมเราะ และตำบลอัยเยอร์เวง ที่อยู่ในความรับผิดชอบออกสำรวจ ตรวจสอบ พร้อมกับลงพื้นที่ให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ประชาชนได้ทราบถึงภัยธรรมชาติที่อยู่รอบตัวซึ่งอาจจะเกิดขึ้น เพื่อที่จะไม่เกิดการเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอีก” นายนายดลเดช กล่าว
นายดลเดช กล่าวอีกว่า นอกจากได้กำชับในเรื่องการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมแล้ว ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานไปยังกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อที่จะได้ทราบว่าพื้นที่ใดจะเกิดฝนตก จากนั้นก็ต้องเฝ้าระวัง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนด้วย ทั้งนี้ถึงแม้ช่วงนี้จะเกิดฝนตกหนักและทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในภาคใต้
สำหรับพื้นที่อำเภอเบตง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบทั้ง 5 ตำบล ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับรายงานว่าเกิดอุทกภัยร้ายแรงในพื้นที่ใด แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังโดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขาและพื้นที่ใกล้แม่น้ำ เนื่องจากในอำเภอเบตงมีภูเขาสันกาลาคีรี และปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานีที่รับน้ำจากประเทศมาเลเซีย กำลังหนุนสูงขึ้น
“ที่ผ่านมามีเพียงน้ำท่วมที่ราบลุ่มบ้านพักข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 เบตงเท่านั้น แต่ขณะนี้ก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ หากเกิดอุทกภัยขึ้นทางสำนักงานป้องกันและกองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง ก็สามารถประสานไปยังจังหวัด เพื่อขอการสนับสนุนงบประมาณเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ที่เดือดร้อนได้ทันที” นายดลเดชกล่าว
ด้าน นายดำรงค์ ดำรงค์สินธ์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเบตงยังไม่มีการเกิดอุทกภัยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสำนักงานป้องกันและกองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์การช่วยเหลือและจัดเจ้าหน้าที่ไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อรับมือ หากเกิดอุทกภัยขึ้น นอกจากนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจและตรวจสอบ พร้อมกับทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย
“เราเตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ไม่จะเป็นอุปกรณ์การช่วยเหลือเช่นเรือท้องแบนรถยนต์ และเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากเกิดอุทกภัยขึ้น เราก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือทันที”