นครศรีธรรมราช – ม.วลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ออกแถลงการณ์วอนสื่อนำเสนอข้อมูลเป็นกลาง ครบถ้วน รอบด้าน หวั่นเป็นช่องหนุนขยายความขัดแย้งทางสังคม
ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผศ.ดร.สถาพร ดิเรกบุษราคม อาจารย์ประจำสำนักวิชาเทคโนโลยีเกษตร คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าคณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างรอบด้านมาโดยตลอด ซึ่งพบเห็นถึงความไม่ปกติหลายประการดังที่ได้ออกแถลงการณ์มาเป็นลำดับ
ล่าสุดได้มีการหารือกันในกรอบเรื่องการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ แล้วเห็นตรงกัน จึงได้มีการออกแถลงการณ์เพื่อขอร้องไปยังสื่อสารมวลชนทุกแขนง
จากแถลงการณ์ ผศ.ดร.สถาพร ระบุว่า จากเหตุการณ์วิกฤตของประเทศ อันเนื่องจากความคิดเห็นทางการเมืองที่ต่างกันของกลุ่มคนในสังคมนั้น กลุ่มคณาจารย์ พนักงาน และนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ใคร่ขอร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้ทำหน้าที่นำเสนอข่าวอย่างถูกต้อง เป็นกลาง ครบถ้วน และรอบด้าน
โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวทางสื่อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นแหล่งกระจายข่าวที่กว้างขวางนั้น จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลข่าวให้ถูกต้องและชัดเจน เช่น การอ่านข่าวในช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย. 51 ซึ่งมีรายงานข่าวว่า “พันธมิตรฯ ขัดขวางการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของพี่น้องชาวมุสลิม” และยังได้รายงานว่า “รองจุฬาราชมนตรีติงการกระทำของพันธมิตรฯ อาจเป็นสาเหตุให้พี่น้องมุสลิมไม่พอใจ และเหตุการณ์อาจลุกลามกลายเป็นสงครามศาสนา” ซึ่งเป็นการรายงานข่าวเพียงด้านเดียวที่อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงในสังคมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากจะนำเสนอข่าวดังกล่าวควรเปิดพื้นที่ให้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ชี้แจงและสอบถามเพิ่มเติมจากพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือการนำเสนอข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงจากการกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ยิงคนตายในที่สาธารณะต่อหน้าตำรวจนั้นมีน้อยมาก รวมทั้งไม่มีการนำเสนอรายละเอียด หรือเจาะประเด็นข่าวว่าผู้ตาย และผู้ถูกทำร้ายเป็นใคร ถูกกระทำอย่างไร ญาติของผู้เสียชีวิตมีความรู้สึกอย่างไร ในขณะที่กรณีเหตุการณ์ที่วิภาวดี สื่อทุกสื่อจากทุกสำนักข่าว โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ได้นำเสนอข่าวเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
แถลงการณ์ระบุอีกว่า ทั้งนี้ กลุ่มคณาจารย์ พนักงาน และนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้าใจดีว่าทุกท่านที่เป็นสื่อมวลชนมีความยากลำบาก ต่อการนำเสนอข่าวในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เราก็อยากขอให้ท่านได้ตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม เพราะการมุ่งเสนอข่าวเพียงด้านเดียวก็ถือได้ว่าเป็นการทำลายประเทศชาติเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงใคร่ขอร้องสื่อต่างๆ ได้นำเสนอข่าวอย่างรอบด้านและถูกต้อง ปราศจากอคติ ตามจรรยาบรรณที่ดีของสื่อ
ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผศ.ดร.สถาพร ดิเรกบุษราคม อาจารย์ประจำสำนักวิชาเทคโนโลยีเกษตร คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าคณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างรอบด้านมาโดยตลอด ซึ่งพบเห็นถึงความไม่ปกติหลายประการดังที่ได้ออกแถลงการณ์มาเป็นลำดับ
ล่าสุดได้มีการหารือกันในกรอบเรื่องการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ แล้วเห็นตรงกัน จึงได้มีการออกแถลงการณ์เพื่อขอร้องไปยังสื่อสารมวลชนทุกแขนง
จากแถลงการณ์ ผศ.ดร.สถาพร ระบุว่า จากเหตุการณ์วิกฤตของประเทศ อันเนื่องจากความคิดเห็นทางการเมืองที่ต่างกันของกลุ่มคนในสังคมนั้น กลุ่มคณาจารย์ พนักงาน และนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ใคร่ขอร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้ทำหน้าที่นำเสนอข่าวอย่างถูกต้อง เป็นกลาง ครบถ้วน และรอบด้าน
โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวทางสื่อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นแหล่งกระจายข่าวที่กว้างขวางนั้น จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลข่าวให้ถูกต้องและชัดเจน เช่น การอ่านข่าวในช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย. 51 ซึ่งมีรายงานข่าวว่า “พันธมิตรฯ ขัดขวางการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของพี่น้องชาวมุสลิม” และยังได้รายงานว่า “รองจุฬาราชมนตรีติงการกระทำของพันธมิตรฯ อาจเป็นสาเหตุให้พี่น้องมุสลิมไม่พอใจ และเหตุการณ์อาจลุกลามกลายเป็นสงครามศาสนา” ซึ่งเป็นการรายงานข่าวเพียงด้านเดียวที่อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงในสังคมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากจะนำเสนอข่าวดังกล่าวควรเปิดพื้นที่ให้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ชี้แจงและสอบถามเพิ่มเติมจากพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือการนำเสนอข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงจากการกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ยิงคนตายในที่สาธารณะต่อหน้าตำรวจนั้นมีน้อยมาก รวมทั้งไม่มีการนำเสนอรายละเอียด หรือเจาะประเด็นข่าวว่าผู้ตาย และผู้ถูกทำร้ายเป็นใคร ถูกกระทำอย่างไร ญาติของผู้เสียชีวิตมีความรู้สึกอย่างไร ในขณะที่กรณีเหตุการณ์ที่วิภาวดี สื่อทุกสื่อจากทุกสำนักข่าว โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ได้นำเสนอข่าวเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
แถลงการณ์ระบุอีกว่า ทั้งนี้ กลุ่มคณาจารย์ พนักงาน และนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้าใจดีว่าทุกท่านที่เป็นสื่อมวลชนมีความยากลำบาก ต่อการนำเสนอข่าวในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เราก็อยากขอให้ท่านได้ตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม เพราะการมุ่งเสนอข่าวเพียงด้านเดียวก็ถือได้ว่าเป็นการทำลายประเทศชาติเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงใคร่ขอร้องสื่อต่างๆ ได้นำเสนอข่าวอย่างรอบด้านและถูกต้อง ปราศจากอคติ ตามจรรยาบรรณที่ดีของสื่อ
