สุราษฎร์ธานี -สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในจังหวัดสุราษฎร์ธานีระลอก 2 เข้าท่วม 6 อำเภอ ในคืนเดียวระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร จังหวัดเร่งประกาศเตือนประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง
จากกรณีมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาหลายวัน ประกอบกับน้ำป่าจากจังหวัดนครศรีธรรมราช และน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร เส้นทางการจราจรในหมู่บ้านและเส้นทางหลัก ในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย ไชยา ท่าฉาง พุนพิน กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และอำเภอเมือง เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
โดยเฉพาะถนนเส้นทางหลัก จากสุราษฎร์-บ้านนาสาร บริเวณหน้าศาลแขวงสุราษฎร์ ถนนเลี่ยงเมืองบริเวณหน้าโรงพยาบาลค่ายวิภาวดี ถนนสายสุราษฎร์ฯ-พุนพิน บริเวณหน้าบริษัทนิสสัน ถนนสายสุราษฎร์ฯ-นครศรีธรรมราช บริเวณวิทยาลัยเทคนิค และถนนเข้าตัวอำเภอไชยาจากบริเวณ สี่แยกไชยา ซึ่งถนนทุกสายถูกน้ำท่วมยาวกว่า 200 เมตร ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้
นายประเสริฐ จิตมั่ง นายอำเภอวิภาวดี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประสบภัยดินถล่มจำนวน 250 คน ยังพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ ไม่สมารถกลับเข้าพื้นที่ได้ และมีหลายหน่วยงานนำสิ่งของอุปโภค บริโภค เสื้อผ้า และสิ่งของใช้ที่จำเป็นมามอบให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการแล้ว ขอให้ผู้ที่มีจิตศรัธานำสิ่งของไปมอบต่อจังหวัด เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่นต่อไป และขณะนี้ มีผู้ฉวยโอกาสแอบอ้างเข้ามาปะปนขอรับสิ่งของบริจาคจำนวนมาก
ในเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพบศพ ดช.กิตติพงษ์ วีระศักดิ์ อายุ 11 เดือนแล้ว ศพได้ถูกกระแสน้ำพัดพามาติดกับต้นไม้ ที่บริเวณหมู่ที่ 9 บ้านบางเมาะ และยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือ นายศิริ บุตรยินดี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 8 ต.กะแตะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจมน้ำขณะออกหาปลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำป่าดินถล่มแล้ว จำนวน 4 ราย
จังหวัดเร่งประกาศเตือนประชาชนในจุดเสี่ยงภัย อพยพออกจากจุดเสี่ยงในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักไปจนถึงวันที่ 30 พร้อมสั่งเรือทุกชนิดเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด เนื่องจากคลื่นลมแรงความสูงของคลื่น 2-3 เมตร
จากกรณีมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาหลายวัน ประกอบกับน้ำป่าจากจังหวัดนครศรีธรรมราช และน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร เส้นทางการจราจรในหมู่บ้านและเส้นทางหลัก ในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย ไชยา ท่าฉาง พุนพิน กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และอำเภอเมือง เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
โดยเฉพาะถนนเส้นทางหลัก จากสุราษฎร์-บ้านนาสาร บริเวณหน้าศาลแขวงสุราษฎร์ ถนนเลี่ยงเมืองบริเวณหน้าโรงพยาบาลค่ายวิภาวดี ถนนสายสุราษฎร์ฯ-พุนพิน บริเวณหน้าบริษัทนิสสัน ถนนสายสุราษฎร์ฯ-นครศรีธรรมราช บริเวณวิทยาลัยเทคนิค และถนนเข้าตัวอำเภอไชยาจากบริเวณ สี่แยกไชยา ซึ่งถนนทุกสายถูกน้ำท่วมยาวกว่า 200 เมตร ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้
นายประเสริฐ จิตมั่ง นายอำเภอวิภาวดี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประสบภัยดินถล่มจำนวน 250 คน ยังพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ ไม่สมารถกลับเข้าพื้นที่ได้ และมีหลายหน่วยงานนำสิ่งของอุปโภค บริโภค เสื้อผ้า และสิ่งของใช้ที่จำเป็นมามอบให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการแล้ว ขอให้ผู้ที่มีจิตศรัธานำสิ่งของไปมอบต่อจังหวัด เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่นต่อไป และขณะนี้ มีผู้ฉวยโอกาสแอบอ้างเข้ามาปะปนขอรับสิ่งของบริจาคจำนวนมาก
ในเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพบศพ ดช.กิตติพงษ์ วีระศักดิ์ อายุ 11 เดือนแล้ว ศพได้ถูกกระแสน้ำพัดพามาติดกับต้นไม้ ที่บริเวณหมู่ที่ 9 บ้านบางเมาะ และยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือ นายศิริ บุตรยินดี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 8 ต.กะแตะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจมน้ำขณะออกหาปลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำป่าดินถล่มแล้ว จำนวน 4 ราย
จังหวัดเร่งประกาศเตือนประชาชนในจุดเสี่ยงภัย อพยพออกจากจุดเสี่ยงในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักไปจนถึงวันที่ 30 พร้อมสั่งเรือทุกชนิดเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด เนื่องจากคลื่นลมแรงความสูงของคลื่น 2-3 เมตร