ยะลา – เบตงฝนกระหน่ำกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านพักข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 เบตง ทรัพย์สินเสียหายไร้ที่อยู่กว่า 40 หลังคาเรือนเบื้องต้นประเมินค่าเสียหายแล้วกว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (12 พ.ย.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตงในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่ม ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการรับมือหลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องในระยะนี้ เน้นย้ำพื้นที่เสี่ยงภัยใน 4 ตำบล ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะถนนตามเชิงเขาสายยะลา-เบตง เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเกิดฝนตกหนักจะทำให้ดินโคลนถล่มรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และเขตรอยต่อประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยมากที่สุด ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเตรียมป้องกันปัญหาดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก
ด้าน นายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กำชับให้กองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตงเร่งตรวจสอบถนนในเขตเทศบาลเนื่องจากเป็นพื้นที่ย่านเศรษฐกิจของอำเภอเบตงและมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก รวมทั้งตรวจสอบน้ำในคลองเบตงที่ไหลผ่านกลางเมืองเบตงไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง ท่อระบายน้ำ ให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก รวมทั้งพื้นที่ในแต่ละชุมชนที่ติดเชิงเขา หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันเข้าท่วมบ้านพักข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 เบตง ทำให้เจ้าหน้าที่และครอบครัวไร้ที่อยู่กว่า 40 หลังคาเรือน
ต่อมา นายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ ได้เดินทางเข้าสำรวจความเสียหายบ้านพักข้าราชการตำรวจถูกน้ำท่วมเสียหายทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด
นายคุณวุฒิ เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำที่ท่วมบริเวณดังกล่าวว่า สาเหตุหลักมาจากบ้านพักของข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นพื้นที่ต่ำจึงทำให้น้ำจากการก่อสร้างบ้านจัดสรรบนเขาที่อยู่ด้านหลังไหลบ่าเข้าท่วมซึ่งมีปริมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่วนการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ให้หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองเบตงเร่ง เข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งให้กองช่างเทศบาลเมืองเบตงนำเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือ
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวจะประสานจังหวัดหาทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากเกินความสามารถของเทศบาลเมืองเบตง เพราะพื้นที่บริเวณน้ำท่วมเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลและเคยเรียกเจ้าของโครงการมาพูดคุยหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถเจรจากันได้ พร้อมกันนี้จึงประสานของบประมาณสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเข้าช่วยเหลือต่อไป
