สุราษฎร์ธานี -สถานการณ์น้ำท่วมที่สุราษฎร์ธานี ขยายพื้นที่กว้างขึ้น ส่วนการช่วยเหลือผู้ถูกตัดขาดเป็นไปด้วยความยากลำบาก เหตุรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึง เรือท้องแบนไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องเดินลุยกระแสน้ำ นำถุงยังชีพมูลนิธิเพื่อนพึงภาฯ ไปช่วยเหลือ
วันนี้ (12 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.นางวันทนีย์ บุญก่อสกุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับเทศบาลตำบลท่าชนะ นำถุงยังชีพพระราชทานจากมูลนิธิเพื่อนพึงภาฯ ยามยาก และถุงกู้ชีพจากศูนย์สิรินธร จ.นครศรีธรรมราช ไปมอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 600 ชุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลท่าชนะ
สำหรับการนำสิ่งของไปช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่ถูกน้ำท่วมระดับสูงตั้งแต่ 60-1 เมตรเศษ และมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เรือท้องแบนไม่เพียงพอ พร้อมทั้งมีฝนตกหนักตลอด เจ้าหน้าที่ต้องแบกถุงยังชีพลุยกระแสน้ำ และสายฝนไปมอบสิ่งของให้ผู้ประสบภัยอย่างทุลักทุเล
นอกจากพื้นที่ อ.ท่าชนะ แล้ว กระแสน้ำยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ในเขตตำบลเวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้ว 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1, 2 และ 5 ระดับน้ำสูงประมาณ 1-1.50 เมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนประมาณ 30 หลังคาเรือน และน้ำยังได้ท่วมถนนเส้นทางสายโมถ่าย-ไชยา รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้
นอกจากนี้ กระแสน้ำยังได้ไหลเข้าท่วม ภายในบริเวณวัดพระบรมธาตุไชยา ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร ให้เป็นศิลปวัฒนธรรมทางโบราณสถาน และยังเป็นวัดพระอารามหลวง ของ จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย
ส่วนบ้านเรือนราษฎรพื้นที่หมู่ 6 ตำบลไชคราม อำเภอดอนสัก ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร ถนนเชื่อมหมู่บ้านถูกตัดขาดรถไม่สามารถผ่านได้