กระบี่ - จังหวัดกระบี่ เตรียมจัดระเบียบภายในวัดถ้ำเสือ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว
นายประภิศ แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาวัดถ้ำเสือ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ว่า วัดถ้ำเสือนั้น เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ในแผนของการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากวัดถ้ำเสือเป็นแหล่งที่พี่น้องชาวพุทธที่มาจากภูมิภาคต่างๆ ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศเดินมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ภายในวัดกันเป็นจำนวนมาก และนอกจากนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวก็เดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของวัดถ้ำเสือแห่งนี้ แต่นอกจากผู้คนที่เดินทางมาจำวนมากแล้ว ภายในวัดวัดก็มีพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจึงต้องมีการจัดระเบียบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
นายประภิศ กล่าวต่อไปว่า การที่คนหมู่มามากอยู่รวมกันในสถานที่เดียวกันทำให้การบริหารจัดการบางเรื่องภายในวัดจึงเป็นปัญหาอย่างมาก แต่ทั้งนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ คณะสงฆ์จังหวัดกระบี่ ก็ตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งมีการขัดแย้งกันภายใน มีกรณีพิพาทในหลายๆ เรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้เกี่ยวข้องก็พยายามหาวิธีการที่นุ่มนวลที่สุด เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
“อย่างเช่นวัดถ้ำเสือ ณ วันนี้มีฐานะเป็นนิติบุคคล ดังนั้น การที่จะให้ทางวัดมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืนนั้น เจ้าอาวาสจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจ้าอาวาสเป็นตัวแทนของนิติบุคคลในการที่จะบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ภายในวัด อยู่อยู่ด้วยความเรียบร้อย สมกับที่เป็นวัดเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่”
นายประภิศ กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวหากเราไปมุ่งหวังไว้กับเจ้าอาวาสเพียงท่านเดียว ทุกอย่างก็คงจะดำเนินการไปด้วยความยากลำบาก เพราะว่าวัดถ้ำเสือนั้น ถือว่าเป็นวัดของคนทั้งจังหวัดกระบี่ เพราะฉะนั้น จึงทำให้คณะสงฆ์ได้เข้ามาดำเนินการ เริ่มจากเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด จะต้องเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เข้าไปแนะนำในสิ่งที่ ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการจัดระเบียบ ภายในวัด
หลายท่านที่เดินเข้าไปภายในบริเวณวัดถ้ำเสือ พบว่า พื้นที่ที่ทางวัดแบ่งโซนจำหน่ายสินค้า โซนจำหน่ายวัตถุมงคล และสถานที่ปฏิบัติกิจทางศาสนา มีการปลูกสร้างร้านค้ากันเป็นจำนวนมาก ไม่มีความเป็นระเบียบ ดูแล้วไม่สวยงาม แต่ในขณะนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาและผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปทำความเข้าใจกับ ผู้ที่เข้าไปทำกิจการภายในพื้นที่ของวัดว่า ต่อไปนี้ผู้ที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ของวัดในการประกอบอาชีพ ภายในวัดจะต้องอยู่ในบริเวณพื้นที่มีการจัดแบ่งโซนไว้ ทั้งร้านจำหน่ายวัตถุมงคล หรือร้านจำหน่ายอาหาร และจุดที่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วน โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง และกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดก็ได้เข้าไปให้คำแนะนำ เป็นอบย่างดี
“ปัญหาเรื่องการจัดระเบียบภายในวัดจึงเป็นปัญหาที่สะสมมานานพอสมควรเพราะฉะนั้น การที่จะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จนั้นภายในวันสองวันนั้นก็คงจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก คาดว่าปัญหาทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น” ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ กล่าว
นายประภิศ แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาวัดถ้ำเสือ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ว่า วัดถ้ำเสือนั้น เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ในแผนของการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากวัดถ้ำเสือเป็นแหล่งที่พี่น้องชาวพุทธที่มาจากภูมิภาคต่างๆ ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศเดินมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ภายในวัดกันเป็นจำนวนมาก และนอกจากนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวก็เดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของวัดถ้ำเสือแห่งนี้ แต่นอกจากผู้คนที่เดินทางมาจำวนมากแล้ว ภายในวัดวัดก็มีพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจึงต้องมีการจัดระเบียบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
นายประภิศ กล่าวต่อไปว่า การที่คนหมู่มามากอยู่รวมกันในสถานที่เดียวกันทำให้การบริหารจัดการบางเรื่องภายในวัดจึงเป็นปัญหาอย่างมาก แต่ทั้งนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ คณะสงฆ์จังหวัดกระบี่ ก็ตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งมีการขัดแย้งกันภายใน มีกรณีพิพาทในหลายๆ เรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้เกี่ยวข้องก็พยายามหาวิธีการที่นุ่มนวลที่สุด เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
“อย่างเช่นวัดถ้ำเสือ ณ วันนี้มีฐานะเป็นนิติบุคคล ดังนั้น การที่จะให้ทางวัดมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืนนั้น เจ้าอาวาสจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจ้าอาวาสเป็นตัวแทนของนิติบุคคลในการที่จะบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ภายในวัด อยู่อยู่ด้วยความเรียบร้อย สมกับที่เป็นวัดเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่”
นายประภิศ กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวหากเราไปมุ่งหวังไว้กับเจ้าอาวาสเพียงท่านเดียว ทุกอย่างก็คงจะดำเนินการไปด้วยความยากลำบาก เพราะว่าวัดถ้ำเสือนั้น ถือว่าเป็นวัดของคนทั้งจังหวัดกระบี่ เพราะฉะนั้น จึงทำให้คณะสงฆ์ได้เข้ามาดำเนินการ เริ่มจากเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด จะต้องเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เข้าไปแนะนำในสิ่งที่ ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการจัดระเบียบ ภายในวัด
หลายท่านที่เดินเข้าไปภายในบริเวณวัดถ้ำเสือ พบว่า พื้นที่ที่ทางวัดแบ่งโซนจำหน่ายสินค้า โซนจำหน่ายวัตถุมงคล และสถานที่ปฏิบัติกิจทางศาสนา มีการปลูกสร้างร้านค้ากันเป็นจำนวนมาก ไม่มีความเป็นระเบียบ ดูแล้วไม่สวยงาม แต่ในขณะนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาและผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปทำความเข้าใจกับ ผู้ที่เข้าไปทำกิจการภายในพื้นที่ของวัดว่า ต่อไปนี้ผู้ที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ของวัดในการประกอบอาชีพ ภายในวัดจะต้องอยู่ในบริเวณพื้นที่มีการจัดแบ่งโซนไว้ ทั้งร้านจำหน่ายวัตถุมงคล หรือร้านจำหน่ายอาหาร และจุดที่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วน โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง และกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดก็ได้เข้าไปให้คำแนะนำ เป็นอบย่างดี
“ปัญหาเรื่องการจัดระเบียบภายในวัดจึงเป็นปัญหาที่สะสมมานานพอสมควรเพราะฉะนั้น การที่จะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จนั้นภายในวันสองวันนั้นก็คงจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก คาดว่าปัญหาทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น” ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ กล่าว