อาหารทะเลขาดตลาดเร่งปรับขึ้นราคา

ตรัง – ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาหารทะเลยังคงขาดแคลน พ่อค้าแม่ค้ากล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลง แต่เรือประมงยังคงหยุดเดินเรือ เนื่องจากราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา

วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้ออกไปสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายอาหารทะเลสด ภายในตลาดสดเทศบาลนครตรัง หลังจากที่ราคาน้ำมันซึ่งถือเป็นต้นทุนหลัก หรือประมาณ 80% ในการทำประมงพาณิชย์ มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับพบว่าอาหารทะเลยังคงขาดแคลนในระยะนี้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นปลากะชังที่พ่อค้าแม่ค้านำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค

โดยพ่อค้าแม่ค้ากล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงแต่เรือประมงยังคงหยุดเดินเรือ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้เรือประมงขนาดใหญ่ หรือเรือประมงพาณิชย์หยุดเดินเรือไปนาน ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีลมมรสุมกำลังแรง และร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่าน ทำให้เรือประมงงดออกหาปลาเป็นเวลานาน ซึ่งจะมีเพียงเรือประมงขนาดเล็ก หรือประมงพื้นบ้านเท่านั้น ที่ออกเดินเรือระยะใกล้ๆ จึงส่งผลให้อาหารขาดตลาด และมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

ทั้งนี้ จากการที่อาหารทะเลสดขาดตลาด ทำให้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 10 บาท และมีแนวโน้มว่าจะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนหันมาเลือกบริโภคอาหารทะเลเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากเนื้อหมูที่มีการปรับราคาแพงกว่าเดิม ทำให้อาหารทะเลมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยปลากะพง จากเดิมกิโลกรัมละ 140 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 150 บาท ปลากะพงแดง จากเดิมกิโลกรัมละ 180 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 190 บาท และกุ้งสด ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับปลาสดที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเทศบาลนครตรัง นำมาจำหน่ายให้กับประชาชนผู้บริโภคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปลากระชัง ในขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็หันมาให้ความนิยมด้วย โดยปลาที่กำลังขาดตลาดอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ปลาจะระเม็ด ปลาอินทรีย์ และปลากระบอก ซึ่งเป็นปลาขนาดเล็กที่ต้องจับมาจากท้องทะเลเท่านั้น