ชุมพร - ประชาชนจำนวนมากในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แห่เข้าโรงรับจำเทศบาลเมืองชุมพร จนเงินขณะนี้เงินคงคลัง 5 ล้านบาท หมดเกลี้ยงมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ผู้เกี่ยวข้องเร่งขอจัดสรรเงินสะสมฉุกเฉิน ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
นายสนั่น อุตอามาตย์ ผู้จัดการสถานภิบาลนุเคราะห์เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 ได้ของบประมาณไปทางทางส่วนกลางเป็นเงิน 10 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า ได้มาเพียง 5 ล้านบาท ทำให้ที่ผ่านมา สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ เพราะระยะนี้มีประชาชนจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกันมากเป็นพิเศษ เนื่องจากโรงเรียนเปิดเทอมและช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางด้านการเกษตรที่จะต้องนำเงินไปใช้จ่ายค่าแรงล่วงหน้า
อีกทั้งราคาทองที่ผันผวนทำให้มีประชาชนนำมาจำนำกันมากขึ้น โดยมีเหตุผลคือหากทองคำลดลงก็ไม่เสียดายทรัพย์สินดังกล่าว และจะปล่อยให้ขาดจำนำไปเลย แต่ขณะเดียวกัน หากทองคำมาคาสูงขึ้นก็จะนำเงินมาไถ่ถอนคืน ซึ่งทางโรงรับจำนำจึงต้องใช้มาตรการกำหนดราคารับจำนำไว้ที่ 9,000 บาท ต่อทองคำหนัก 1 บาท
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ทำให้ช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เงินงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท ได้รับจำนำทรัพย์สินของประชาชนจนหมดไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ต้องใช้วิธีเวียนเทียนโดยรอเอาเงินที่เจ้าของทรัพย์สินนำมาไถ่ถอน เพื่อใช้หมุนเวียนจ่ายให้กับผู้จำนำรายใหม่ แต่ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนต้องมารอเข้าคิววันละหลายคน ซึ่งขณะนี้ตนได้เร่งขอให้ทางเทศบาลเมืองชุมพร ดำเนินการจัดสรรเงินสะสมมาให้เป็นกรณีฉุกเฉินก่อนคาดประมาณกลางเดือนนี้คงจะสามารถคลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ตามปกติ
ผู้จัดการสถานภิบาลนุเคราะห์เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวต่อว่า ประชาชนที่นำทรัพย์สินมาจำนำส่วนใหญ่จะเป็นทองคำรูปพรรณ มีจำนวนถึง 95 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องมือในการประกอบอาชีพ
ด้าน นางมาลัย เมืองผุด อายุ 50 ปี ผู้ใช้บริการ กล่าวว่า ได้นำทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาท มาจำนำ แต่จำนำได้พียง 10,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในการใช้จ่ายที่จำเป็นขณะนี้ แต่เพื่อที่จะได้เฉลี่ยเงินให้กับผู้อื่นที่เดือดร้อนรายอื่น จึงพอที่จะเข้าใจปัญหาของโรงรับจำนำที่ต้องประสบกับภาวะดังกล่าวในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำขณะนี้ ตนหวังว่าโรงรับจำนำจะสามารถแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และตนก็จะมาขอเงินเพิ่มวงเงินจำนำอีกในคราวต่อไป
นายสนั่น อุตอามาตย์ ผู้จัดการสถานภิบาลนุเคราะห์เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 ได้ของบประมาณไปทางทางส่วนกลางเป็นเงิน 10 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า ได้มาเพียง 5 ล้านบาท ทำให้ที่ผ่านมา สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ เพราะระยะนี้มีประชาชนจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกันมากเป็นพิเศษ เนื่องจากโรงเรียนเปิดเทอมและช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางด้านการเกษตรที่จะต้องนำเงินไปใช้จ่ายค่าแรงล่วงหน้า
อีกทั้งราคาทองที่ผันผวนทำให้มีประชาชนนำมาจำนำกันมากขึ้น โดยมีเหตุผลคือหากทองคำลดลงก็ไม่เสียดายทรัพย์สินดังกล่าว และจะปล่อยให้ขาดจำนำไปเลย แต่ขณะเดียวกัน หากทองคำมาคาสูงขึ้นก็จะนำเงินมาไถ่ถอนคืน ซึ่งทางโรงรับจำนำจึงต้องใช้มาตรการกำหนดราคารับจำนำไว้ที่ 9,000 บาท ต่อทองคำหนัก 1 บาท
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ทำให้ช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เงินงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท ได้รับจำนำทรัพย์สินของประชาชนจนหมดไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ต้องใช้วิธีเวียนเทียนโดยรอเอาเงินที่เจ้าของทรัพย์สินนำมาไถ่ถอน เพื่อใช้หมุนเวียนจ่ายให้กับผู้จำนำรายใหม่ แต่ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนต้องมารอเข้าคิววันละหลายคน ซึ่งขณะนี้ตนได้เร่งขอให้ทางเทศบาลเมืองชุมพร ดำเนินการจัดสรรเงินสะสมมาให้เป็นกรณีฉุกเฉินก่อนคาดประมาณกลางเดือนนี้คงจะสามารถคลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ตามปกติ
ผู้จัดการสถานภิบาลนุเคราะห์เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวต่อว่า ประชาชนที่นำทรัพย์สินมาจำนำส่วนใหญ่จะเป็นทองคำรูปพรรณ มีจำนวนถึง 95 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องมือในการประกอบอาชีพ
ด้าน นางมาลัย เมืองผุด อายุ 50 ปี ผู้ใช้บริการ กล่าวว่า ได้นำทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาท มาจำนำ แต่จำนำได้พียง 10,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในการใช้จ่ายที่จำเป็นขณะนี้ แต่เพื่อที่จะได้เฉลี่ยเงินให้กับผู้อื่นที่เดือดร้อนรายอื่น จึงพอที่จะเข้าใจปัญหาของโรงรับจำนำที่ต้องประสบกับภาวะดังกล่าวในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำขณะนี้ ตนหวังว่าโรงรับจำนำจะสามารถแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และตนก็จะมาขอเงินเพิ่มวงเงินจำนำอีกในคราวต่อไป