นราธิวาส – จังหวัดนราธิวาสคนร้ายยังก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนวัดพนาสณฑ์ อ.เมือง ทำให้อาคารไม้ 2 ชั้นวอดทั้งหลัง
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (5 พ.ย.) ร.ต.ท.อนุรักษ์ จันทาพูน ร้อยเวร สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนวัดพนาสณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ ม.7 ต.โคกเคียน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับ พ.ต.ท.สุธน สุขวิเศษ สวญ.สภ.โคกเคียน พ.อ.ธรรมนูญ วิถี เสธนาธิการ ฉก.นราธิวาส พ.ท.ไมตรี บุตรบุรี ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองวิทยาการ จ.นราธิวาส
ก่อนที่จะประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อขอสนับสนุนรถดับเพลิงไปทำการฉีดน้ำดับไฟ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อาคารไม้ 2 ชั้น ที่ปลูกติดกัน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง แต่เนื่องจากเป็นอาคารไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะสกัดต้นเพลิงเอาไว้ได้ จนทำให้อาคารได้รับความเสียหายทั้งหลัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบว่าอาคารไม้ 2 ชั้น ที่ประกอบด้วยห้องประชุม ห้องพักครู ห้องชั้นอนุบาล 1 และ 3 รวมทั้งห้องชั้น ป.3 ถูกเพลิงไหม้ โดยเฉพาะภายในห้องชั้นอนุบาล 1 ซึ่งอยู่ชั้นล่างด้านขวามือของอาคารมีคราบน้ำมันเชื้อเพลิงลอยอยู่บนผิวน้ำ โดยมีเศษซากของสื่อการเรียนการสอนของชั้นอนุบาลคล้ายกับมีการนำมาสุมกองไว้ แล้วคนร้ายได้นำน้ำมันเชื้อเพลิงมาราดแล้วจุดไฟเผา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง
สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ได้แฝงตัวออกมาทางด้านประตูเหล็กของรั้วโรงเรียนที่อยู่ด้านข้างของอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ จากนั้นช่วยกันงัดหน้าต่างแล้วปีนเข้าไปนำสื่อการเรียนการสอนมากองสุมแล้วราดน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบหนีไปทางเดิม
ด้าน นายประวิทย์ เพียรผล ผอ.โรงเรียนวัดพนาสณฑ์ เปิดเผยว่า ถึงอาคารเรียนจะถูกเพลิงไหม้แต่โรงเรียนยังคงเปิดการเรียนการสอนเช่นเดิม โดยในส่วนของนักเรียนชั้นที่ถูกเพลิงไหม้จะแยกไปเรียนอีกอาคารหนึ่งที่ปลูกติดกันกับอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ ในส่วนของสื่อการเรียนการสอนรวมทั้งอื่นๆ จะประสานไปยังเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1 เพื่อขอสนับสนุนมาใช้เป็นการชั่วคราว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว ชรบ.ทั้งหมด 6 คน ซึ่งเข้าเวรยามในช่วงเกิดเหตุ เพื่อสอบปากคำและสอบสวนหาคนร้ายต่อไป
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (5 พ.ย.) ร.ต.ท.อนุรักษ์ จันทาพูน ร้อยเวร สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนวัดพนาสณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ ม.7 ต.โคกเคียน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับ พ.ต.ท.สุธน สุขวิเศษ สวญ.สภ.โคกเคียน พ.อ.ธรรมนูญ วิถี เสธนาธิการ ฉก.นราธิวาส พ.ท.ไมตรี บุตรบุรี ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองวิทยาการ จ.นราธิวาส
ก่อนที่จะประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อขอสนับสนุนรถดับเพลิงไปทำการฉีดน้ำดับไฟ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อาคารไม้ 2 ชั้น ที่ปลูกติดกัน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง แต่เนื่องจากเป็นอาคารไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะสกัดต้นเพลิงเอาไว้ได้ จนทำให้อาคารได้รับความเสียหายทั้งหลัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบว่าอาคารไม้ 2 ชั้น ที่ประกอบด้วยห้องประชุม ห้องพักครู ห้องชั้นอนุบาล 1 และ 3 รวมทั้งห้องชั้น ป.3 ถูกเพลิงไหม้ โดยเฉพาะภายในห้องชั้นอนุบาล 1 ซึ่งอยู่ชั้นล่างด้านขวามือของอาคารมีคราบน้ำมันเชื้อเพลิงลอยอยู่บนผิวน้ำ โดยมีเศษซากของสื่อการเรียนการสอนของชั้นอนุบาลคล้ายกับมีการนำมาสุมกองไว้ แล้วคนร้ายได้นำน้ำมันเชื้อเพลิงมาราดแล้วจุดไฟเผา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง
สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ได้แฝงตัวออกมาทางด้านประตูเหล็กของรั้วโรงเรียนที่อยู่ด้านข้างของอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ จากนั้นช่วยกันงัดหน้าต่างแล้วปีนเข้าไปนำสื่อการเรียนการสอนมากองสุมแล้วราดน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบหนีไปทางเดิม
ด้าน นายประวิทย์ เพียรผล ผอ.โรงเรียนวัดพนาสณฑ์ เปิดเผยว่า ถึงอาคารเรียนจะถูกเพลิงไหม้แต่โรงเรียนยังคงเปิดการเรียนการสอนเช่นเดิม โดยในส่วนของนักเรียนชั้นที่ถูกเพลิงไหม้จะแยกไปเรียนอีกอาคารหนึ่งที่ปลูกติดกันกับอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ ในส่วนของสื่อการเรียนการสอนรวมทั้งอื่นๆ จะประสานไปยังเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1 เพื่อขอสนับสนุนมาใช้เป็นการชั่วคราว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว ชรบ.ทั้งหมด 6 คน ซึ่งเข้าเวรยามในช่วงเกิดเหตุ เพื่อสอบปากคำและสอบสวนหาคนร้ายต่อไป
