พัทลุง – แฉเจ้าหน้าที่บ้านเมืองร่วมมือเปิดทางโจรเข้าขโมยรังนกเกาะสี่-เกาะห้า อ.ปากพยูน จ.พัทลุง ขณะที่คณะกรรมการรังนกแทบผงะเมื่อลงพื้นที่ตรวจถ้ำพบโจรขโมยรังนกเกลี้ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นายอรชุณ นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะผู้ตรวจสอบและดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเกาะรังนก โดยได้มีการออกตรวจถ้ำทั้งหมดจำนวน 3 ถ้ำ คือ ถ้ำรูซิ้ม ถ้ำไทร และถ้ำรื่น ซึ่งทั้งหมดอยู่บริเวณหน้าเกาะเทวดา ซึ่งเป็นที่มั่นของหน่วยรักษาความปลอดภัย คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงพัทลุง สงขลา แต่มีกำลังเพียงไม่ถึง 10 คน หลังจากที่ชาวบ้านรอบทะเลสาบร้องเรียนต่อคณะกรรมการรังนกว่ามีโจรแอบเข้าลักรักนกเป็นจำนวนมาก
โดยทางคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง มีข้อกังขาและสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริงมากน้อยแค่ไหน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง ปรากฏว่ามีการขโมยรังนกอีแอ่นหมู่เกาะสี่ เกาะห้า เกิดขึ้นจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยพบว่ามีราวไม้ไผ่ที่พาดขึ้นไปเก็บรังนกยังใหม่ ทั้งที่บริษัทสัมปทานได้หยุดเก็บมาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดย นายประเสริฐ ดำสุด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบร่องรอยใหม่ๆ และหลักฐานพร้อมอุปกรณ์ของผู้กระทำความผิดนำมาขโมยรังนก วางอยู่เกลื่อนภายในถ้ำ เช่น บันได เชือก กระเช้า และถ่านไฟฉาย ส่วนรังนกดำได้โดนขโมยหมด ในขณะที่แม่นกนางแอ่นบินว่อน เนื่องจากไม่มีรังให้เกาะ
นายประเสริฐ ยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้รังนกหมู่เกาะสี่-เกาะห้า พัทลุง เข้าขั้นวิกฤติทางตนและคณะกรรมการมีความเป็นห่วงเป็นอย่างมาก หลังจากนี้จะได้เรียกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาประชุมเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากกว่านี้ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการ รื้อระบบเก่าทิ้ง และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และอส.เข้ามาทำหน้าที่แทน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และป่าไม้ อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่อีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้านกนางแอ่นชุดใหม่จะเข้ามาทำรัง คือรังนกขาว ซึ่งราคาต่อกิโลกรัมแพงกว่ารังนกดำที่โดนขโมยไป
ในขณะที่แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า รังนัดที่มีการลักลอบขโมยนั้น เป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่เกาะที่เปิดทางสะดวกให้โจรเข้าไปในถ้ำ 2-3 ชม. โดยจ่ายค่าหัวให้ 20,000-30,000 บาท เพื่อเปิดทางสะดวก และนำมาจำหน่ายให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ พร้อมกันนั้นประธานกรรมการจัดเก็บรังนกพัทลุง เพิกเฉยไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ โดยปล่อยให้กรรมการที่มาจากท้องถิ่นต้องเดือดร้อนและเห็นถึงผลที่ทางจังหวัดจะเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นายอรชุณ นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะผู้ตรวจสอบและดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเกาะรังนก โดยได้มีการออกตรวจถ้ำทั้งหมดจำนวน 3 ถ้ำ คือ ถ้ำรูซิ้ม ถ้ำไทร และถ้ำรื่น ซึ่งทั้งหมดอยู่บริเวณหน้าเกาะเทวดา ซึ่งเป็นที่มั่นของหน่วยรักษาความปลอดภัย คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงพัทลุง สงขลา แต่มีกำลังเพียงไม่ถึง 10 คน หลังจากที่ชาวบ้านรอบทะเลสาบร้องเรียนต่อคณะกรรมการรังนกว่ามีโจรแอบเข้าลักรักนกเป็นจำนวนมาก
โดยทางคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง มีข้อกังขาและสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริงมากน้อยแค่ไหน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง ปรากฏว่ามีการขโมยรังนกอีแอ่นหมู่เกาะสี่ เกาะห้า เกิดขึ้นจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยพบว่ามีราวไม้ไผ่ที่พาดขึ้นไปเก็บรังนกยังใหม่ ทั้งที่บริษัทสัมปทานได้หยุดเก็บมาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดย นายประเสริฐ ดำสุด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบร่องรอยใหม่ๆ และหลักฐานพร้อมอุปกรณ์ของผู้กระทำความผิดนำมาขโมยรังนก วางอยู่เกลื่อนภายในถ้ำ เช่น บันได เชือก กระเช้า และถ่านไฟฉาย ส่วนรังนกดำได้โดนขโมยหมด ในขณะที่แม่นกนางแอ่นบินว่อน เนื่องจากไม่มีรังให้เกาะ
นายประเสริฐ ยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้รังนกหมู่เกาะสี่-เกาะห้า พัทลุง เข้าขั้นวิกฤติทางตนและคณะกรรมการมีความเป็นห่วงเป็นอย่างมาก หลังจากนี้จะได้เรียกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาประชุมเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากกว่านี้ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการ รื้อระบบเก่าทิ้ง และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และอส.เข้ามาทำหน้าที่แทน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และป่าไม้ อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่อีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้านกนางแอ่นชุดใหม่จะเข้ามาทำรัง คือรังนกขาว ซึ่งราคาต่อกิโลกรัมแพงกว่ารังนกดำที่โดนขโมยไป
ในขณะที่แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า รังนัดที่มีการลักลอบขโมยนั้น เป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่เกาะที่เปิดทางสะดวกให้โจรเข้าไปในถ้ำ 2-3 ชม. โดยจ่ายค่าหัวให้ 20,000-30,000 บาท เพื่อเปิดทางสะดวก และนำมาจำหน่ายให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ พร้อมกันนั้นประธานกรรมการจัดเก็บรังนกพัทลุง เพิกเฉยไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ โดยปล่อยให้กรรมการที่มาจากท้องถิ่นต้องเดือดร้อนและเห็นถึงผลที่ทางจังหวัดจะเสียหาย
