นครศรีธรรมราช - หัวคะแนนขนชาวบ้านมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ปราศรัยอัดตำรวจเละ จัดฉากค้นปืนแถลงข่าวหลังคนดังถูกค้นอาวุธปืน 9 จุดรวด โอดขอความเป็นธรรมสร้างมาตรฐานให้สุจริตชนมั่นใจ
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มประชาชน จากพื้นที่ต่างๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนกว่าพันคนเดินทางมามอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจแก่ นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนคร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รวมถึงคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกอบพิธีดุอาร์ขอพรให้กับนายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป
สำหรับการเดินทางมามอบช่อดอกไม้แก่นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาค 8 และกำลัง นปพ.ในนครศรีธรรมราช จำนวนกว่า200 นาย ได้บุกจู่โจมเข้าไปตรวจค้นที่บ้านพักของ นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช และจุดอื่นๆ รวม 9 จุด ประกอบด้วย ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา, สิชล และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนั้นได้ตรวจยึดอาวุธปืนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นปืนที่มีอนุญาตถูกต้อง และไม่มีอนุญาต ในส่วนของ นายวิฑูรย์ นั้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาในความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จากการค้นพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.และเครื่องกระสุนอาวุธปืนเอชเคจำนวนหนึ่ง
และหลังจากที่กลุ่มพลังมวลชนได้ทยอยมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจแก่นายกอบจ.แล้วนั้น นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.ได้กล่าวกับกลุ่มประชาชน ที่เดินทางมาให้กำลังใจว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปพบกับ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และขอความเป็นธรรมจากกรณีที่โดนตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นบ้านเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงโดยในแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมได้ระบุว่า ในฐานะนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบให้บริการสาธารณะ และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนขอยืนยันในความมุ่งมั่นและตระหนักถึงภารกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนโดยจะไม่นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นเงื่อนไขในการทำหน้าที่ และตนนั้น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งหากตำรวจจะทำหน้าที่สร้างความสงบสุขให้แก่สังคมนครศรีธรรมราช อย่างเป็นรูปธรรม และมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริงต่อทุกฝ่าย
“ภาพที่ปรากฏทางสื่อมวลชนจากเหตุการณ์เข้าตรวจค้นบ้านพักของตน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นความสำเร็จในการสร้างผลงานของตำรวจในระดับหนึ่งที่สามารถแสดงให้ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นว่า มีความพยายามในการทำหน้าที่โดยอาศัยสื่อมวลชนเผยแพร่ผลงานของตนโดยไม่รู้สึกรับผิดชอบถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของปัจเจกบุคคล ตนไม่เสียใจที่โดนค้นบ้านโดยไม่ได้รับเกียรติขณะเข้าทำการตรวจค้นแต่ตนเสียใจที่ภายหลังการตรวจค้นตำรวจได้ทำในลักษณะจัดฉากให้เป็นข่าวเสมือนกับการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมร้ายแรงโดยมีเจตนาให้สื่อมวลชนโหมกระพือข่าวเผยแพร่ทั่งประเทศ”
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ตนเป็นตัวแทนของประชาชนมากว่า 24 ปี ตั้งแต่ปี 2527 และได้รับเลือกทางอ้อมในปี 2543 เป็นนายกอบจ.และได้รับการเลือกตั้งโดยตรงในปี 2547 ให้เป็นนายก อบจ.และได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2551 ยืนยันถึงการที่ประชาชนไว้วางใจตน ตนเสียใจที่ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 ต.ค.การอ้างเข้ามาตรวจค้นในมูลที่ไกลกว่าเหตุ และมีการจัดให้เป็นข่าวอย่างผิดปกติโดยได้นำอาวุธปืนมากมายที่ตรวจยึดมาจากที่อื่นแล้วมาตั้งกองไว้หน้าตน และให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และตนตกเป็นภาพข่าวเพียงผู้เดียว ทั้งที่ๆ อาวุธปืนที่ค้นพบที่บ้านตนนั้นมีปืนไม่กี่กระบอกและมีอนุญาตถูกต้องมีเพียงกระบอกเดียวที่ไม่มีอนุญาตเท่านั้น
ตนเห็นว่า ภาพข่าวที่เกิดขึ้นมันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงการลงทุนและบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสิ่งที่ตนได้แถลงมาแล้วนั้น ตนยืนยันในการทำหน้าที่ของตำรวจ และตนเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนทำในทางสุจริตตลอดมา ทั้งในฐานะนักการเมืองท้องถิ่น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ตนขอเรียกร้องสิทธิ เกียรติยศ และศักดิ์ศรี ในความเป็นผู้บริหารท้องถิ่นระดับสูงของจังหวัด และตนก็ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการต่อตนในวันที่ 18ต.ค.เพื่อให้ความไม่เป็นธรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับบุคคลผู้บริสุทธิ์และสุจริตชนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าในวันเกิดเหตุนั้นผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพในขณะที่มีการรวบรวมอาวุธปืนในห้องประชุม 2 บก.ภ.นครศรีธรรมราช และมีการทำบันทึกการตรวจยึดรวมทั้งบันทึกตรวจสอบอาวุธปืน และแจ้งข้อหาสำหรับผู้ที่มีหลักฐานประกอบความผิด ซึ่งภาพที่ปรากฏนั้น เป็นบรรยากาศ ขณะที่นายวิฑูรย์ พูดคุยกับ ผบช.ภ.8 โดยมีการจัดวางอาวุธปืนที่ยึดได้ทั้ง 9 จุด และเมื่อเข้าสู่กระบวนการในการแถลงข่าวมีเพียง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8 เท่านั้น ที่มีการแถลงข่าวโดยไม่มีนายวิฑูรย์นั่งร่วมแต่อย่างใด
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มประชาชน จากพื้นที่ต่างๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนกว่าพันคนเดินทางมามอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจแก่ นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนคร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รวมถึงคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกอบพิธีดุอาร์ขอพรให้กับนายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป
สำหรับการเดินทางมามอบช่อดอกไม้แก่นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาค 8 และกำลัง นปพ.ในนครศรีธรรมราช จำนวนกว่า200 นาย ได้บุกจู่โจมเข้าไปตรวจค้นที่บ้านพักของ นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช และจุดอื่นๆ รวม 9 จุด ประกอบด้วย ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา, สิชล และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนั้นได้ตรวจยึดอาวุธปืนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นปืนที่มีอนุญาตถูกต้อง และไม่มีอนุญาต ในส่วนของ นายวิฑูรย์ นั้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาในความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จากการค้นพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.และเครื่องกระสุนอาวุธปืนเอชเคจำนวนหนึ่ง
และหลังจากที่กลุ่มพลังมวลชนได้ทยอยมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจแก่นายกอบจ.แล้วนั้น นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.ได้กล่าวกับกลุ่มประชาชน ที่เดินทางมาให้กำลังใจว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปพบกับ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และขอความเป็นธรรมจากกรณีที่โดนตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นบ้านเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงโดยในแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมได้ระบุว่า ในฐานะนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบให้บริการสาธารณะ และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนขอยืนยันในความมุ่งมั่นและตระหนักถึงภารกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนโดยจะไม่นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นเงื่อนไขในการทำหน้าที่ และตนนั้น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งหากตำรวจจะทำหน้าที่สร้างความสงบสุขให้แก่สังคมนครศรีธรรมราช อย่างเป็นรูปธรรม และมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริงต่อทุกฝ่าย
“ภาพที่ปรากฏทางสื่อมวลชนจากเหตุการณ์เข้าตรวจค้นบ้านพักของตน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นความสำเร็จในการสร้างผลงานของตำรวจในระดับหนึ่งที่สามารถแสดงให้ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นว่า มีความพยายามในการทำหน้าที่โดยอาศัยสื่อมวลชนเผยแพร่ผลงานของตนโดยไม่รู้สึกรับผิดชอบถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของปัจเจกบุคคล ตนไม่เสียใจที่โดนค้นบ้านโดยไม่ได้รับเกียรติขณะเข้าทำการตรวจค้นแต่ตนเสียใจที่ภายหลังการตรวจค้นตำรวจได้ทำในลักษณะจัดฉากให้เป็นข่าวเสมือนกับการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมร้ายแรงโดยมีเจตนาให้สื่อมวลชนโหมกระพือข่าวเผยแพร่ทั่งประเทศ”
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ตนเป็นตัวแทนของประชาชนมากว่า 24 ปี ตั้งแต่ปี 2527 และได้รับเลือกทางอ้อมในปี 2543 เป็นนายกอบจ.และได้รับการเลือกตั้งโดยตรงในปี 2547 ให้เป็นนายก อบจ.และได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2551 ยืนยันถึงการที่ประชาชนไว้วางใจตน ตนเสียใจที่ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 ต.ค.การอ้างเข้ามาตรวจค้นในมูลที่ไกลกว่าเหตุ และมีการจัดให้เป็นข่าวอย่างผิดปกติโดยได้นำอาวุธปืนมากมายที่ตรวจยึดมาจากที่อื่นแล้วมาตั้งกองไว้หน้าตน และให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และตนตกเป็นภาพข่าวเพียงผู้เดียว ทั้งที่ๆ อาวุธปืนที่ค้นพบที่บ้านตนนั้นมีปืนไม่กี่กระบอกและมีอนุญาตถูกต้องมีเพียงกระบอกเดียวที่ไม่มีอนุญาตเท่านั้น
ตนเห็นว่า ภาพข่าวที่เกิดขึ้นมันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงการลงทุนและบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสิ่งที่ตนได้แถลงมาแล้วนั้น ตนยืนยันในการทำหน้าที่ของตำรวจ และตนเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนทำในทางสุจริตตลอดมา ทั้งในฐานะนักการเมืองท้องถิ่น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ตนขอเรียกร้องสิทธิ เกียรติยศ และศักดิ์ศรี ในความเป็นผู้บริหารท้องถิ่นระดับสูงของจังหวัด และตนก็ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการต่อตนในวันที่ 18ต.ค.เพื่อให้ความไม่เป็นธรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับบุคคลผู้บริสุทธิ์และสุจริตชนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าในวันเกิดเหตุนั้นผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพในขณะที่มีการรวบรวมอาวุธปืนในห้องประชุม 2 บก.ภ.นครศรีธรรมราช และมีการทำบันทึกการตรวจยึดรวมทั้งบันทึกตรวจสอบอาวุธปืน และแจ้งข้อหาสำหรับผู้ที่มีหลักฐานประกอบความผิด ซึ่งภาพที่ปรากฏนั้น เป็นบรรยากาศ ขณะที่นายวิฑูรย์ พูดคุยกับ ผบช.ภ.8 โดยมีการจัดวางอาวุธปืนที่ยึดได้ทั้ง 9 จุด และเมื่อเข้าสู่กระบวนการในการแถลงข่าวมีเพียง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8 เท่านั้น ที่มีการแถลงข่าวโดยไม่มีนายวิฑูรย์นั่งร่วมแต่อย่างใด