สตูล - รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทุ่มงบ 1,700 ล้าน ช่วย 5 จังหวัดชายแดนใต้ พัฒนาเกษตรแบบยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอพียง เพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เป็นข้อจำกัดที่สำคัญของการพัฒนา ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่น่าหวาดกลัว
วันนี้ (13 ต.ค.) เวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพัฒน์ แก้ววิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานปี 2551 และจัดทำแผนปฏิบัติการปี 2552 ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ศาลากลางจังหวัดสตูล โดย นายขวัญชัย วงศ์นิติกร ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้แทนจากอ ศอ.บต. จำนวน 175 นาย เข้าร่วม
นายสมพัฒน์ แก้ววิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในมิติด้านการพัฒนา แม้ว่าจังหวัดชายแดนใต้จะมีศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาอยู่มาก แต่สถานการณ์ความไม่สงบที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เป็นข้อจำกัดที่สำคัญของการพัฒนา ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่น่าหวาดกลัว เป็นอุปสรรค์ต่อการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว การประกอบอาชีพฝืดเคือง ปัญหาความมั่นคงในการดำเนินชีวิตแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประชาชนอย่างมาก
พร้อมกล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งในการดำเนินการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปี 2551-2552) ขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2552 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวน 1,743 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการพัฒนาอาชีพด้านเกษตร
“สำหรับแผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ปี 2552 เน้นกิจกรรมที่จะเข้าไปส่งเสริมและพัฒนาการประกอบอาชีพของเกษตรกร ให้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำไปสู่การพึ่งตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันให้สามารถปรับตัวเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนในสินค้าที่เป็นอาชีพหลักของเกษตรกรในจังหวัดชายแดนใต้ และเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ การสร้างเครือข่ายเกษตรกร ใช้เกษตรอาสาเป็นกลไกในการเชื่อมโยงการปฏิบัติงานซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ” นายสมพัฒน์ กล่าว
