ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรรมาธิการติดตามงบประมาณ 4 ปี เทลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 1.1 แสนล้านบาท แต่ดับไฟใต้ไม่ได้ผล
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ประธานกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนราษฏรเปิดเผยว่าจากการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ เพื่อจะนำมาแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ประมาณหนึ่งแสนเก้าพันล้านบาท และในปี 2552 อีกสองหมื่นล้านบาท แต่ปัญหาก็ไม่ได้คลี่คลายลงอย่างควรจะเป็น กรรมาธิการฯจะฟังความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยตรง ว่าเงินไปใช้จ่ายในด้านใดบ้างและเงินที่ได้รับจ่ายอย่างไรและปัญหาอยู่ตรงไหน และแก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่
“จากการติดตามพอจะทราบว่าแต่ละหน่วยที่นำงบไปใช่จ่ายไม่ค่อยประสานกัน ต่างฝ่ายต่างเอางบไปใช้ ผมเสนอให้หน่วยงานที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดชยแดนภาคใต้มานั่งจับเข่าคุย เอาปัญหามานั่งปรึกษากัน น่าจะแก้ปัญหาได้”
นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานอนุกรรมการติดตามงบประมาณ เปิดเผยว่า จากการที่กรรมาธิการลงพื้นที่ได้ทราบข้อมูลในการบริหารงบประมาณ ที่ยังไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ก่อนที่จะนำงบประมาณปี 2552 ลงพื้นที่ ควรจะประชุมร่วมกันของทุกหน่วยงานที่ไปแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ก่อน เพื่อจะได้มาบูรณาการ รู้ภารกิจของหน่วยงานได้ชัดเจน โดยมีกรรมาธิการฯเป็นเจ้าภาพ เพราะเชื่อว่าหากใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีเอกภาพ การแก้ปัญหาคงจะไม่สำเร็จลุล่วง
“ผมเชื่อว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้แก้ไขได้ด้วยสันติวิธี ตั้งแต่การใช้กฎหมาย ระเบียบ ความเป็นธรรม ความยากจน การส่งเสริมอาชีพและการส่งเสริมการศึกษา โดยที่ละเลยเรื่องหนึ่งเรื่องใดไม่ได้”
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ประธานกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนราษฏรเปิดเผยว่าจากการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ เพื่อจะนำมาแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ประมาณหนึ่งแสนเก้าพันล้านบาท และในปี 2552 อีกสองหมื่นล้านบาท แต่ปัญหาก็ไม่ได้คลี่คลายลงอย่างควรจะเป็น กรรมาธิการฯจะฟังความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยตรง ว่าเงินไปใช้จ่ายในด้านใดบ้างและเงินที่ได้รับจ่ายอย่างไรและปัญหาอยู่ตรงไหน และแก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่
“จากการติดตามพอจะทราบว่าแต่ละหน่วยที่นำงบไปใช่จ่ายไม่ค่อยประสานกัน ต่างฝ่ายต่างเอางบไปใช้ ผมเสนอให้หน่วยงานที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดชยแดนภาคใต้มานั่งจับเข่าคุย เอาปัญหามานั่งปรึกษากัน น่าจะแก้ปัญหาได้”
นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานอนุกรรมการติดตามงบประมาณ เปิดเผยว่า จากการที่กรรมาธิการลงพื้นที่ได้ทราบข้อมูลในการบริหารงบประมาณ ที่ยังไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ก่อนที่จะนำงบประมาณปี 2552 ลงพื้นที่ ควรจะประชุมร่วมกันของทุกหน่วยงานที่ไปแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ก่อน เพื่อจะได้มาบูรณาการ รู้ภารกิจของหน่วยงานได้ชัดเจน โดยมีกรรมาธิการฯเป็นเจ้าภาพ เพราะเชื่อว่าหากใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีเอกภาพ การแก้ปัญหาคงจะไม่สำเร็จลุล่วง
“ผมเชื่อว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้แก้ไขได้ด้วยสันติวิธี ตั้งแต่การใช้กฎหมาย ระเบียบ ความเป็นธรรม ความยากจน การส่งเสริมอาชีพและการส่งเสริมการศึกษา โดยที่ละเลยเรื่องหนึ่งเรื่องใดไม่ได้”
