ระนอง - สมาชิกสภา อบจ.ระนอง มีมติไม่อนุมัติญัตติใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ อำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ประจำปี 2551 และงบสนับสนุนการศึกษาโรงเรียน ตชด.บ้านในวง รวมกว่า 3.7 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง ได้มีการประชุมสภา อบจ.ระนอง สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2551 ญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมของ อบจ.ระนอง เพื่อดำเนินโครงการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ อำเภอกระบุรี จำนวน 800,000 บาท และโครงการจัดงานแข่งขันเรือยาวและสิ่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอละอุ่น ประจำปี 2551 จำนวน 800,000 บาท และญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมใช้จ่ายในการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง อ.ละอุ่น จำนวน 2,136,340 บาท ตามที่นายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง เป็นผู้เสนอญัตติ โดยมีนายสมควร ทองสุกใส ประธานสภา อบจ.เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีสมาชิกลงชื่อเข้าร่วมประชุม จำนวน 21 คน จากทั้งหมด 24 คน
หลังจากที่ นายนภา ได้แถลงญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสม สนับสนุนการแข่งขันเรือยาวของทั้งสองอำเภอ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดระนอง ที่มีมาเกือบร้อยปีแล้ว และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่ง อบจ.ระนอง ได้สนับสนุนมาเป็นประจำทุกปี และการจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง ที่ อบจ.รับโอนมาจาก ตชด. แต่เนื่องจาก อบจ.ระนอง ยังไม่สามารถประกาศใช้ข้อบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ได้ทัน จึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติต่อสภาในการใช้จ่ายเงินสะสมจำนวนดังกล่าว
จากนั้นสมาชิกสภา ได้ลุกขึ้นอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง มีทั้งที่สนับสนุนและคัดค้าน โดยเฉพาะสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยได้อภิปราย ติติงฝ่ายบริหารและข้าราชการประจำที่ทำงานล่าช้า ไม่มีการวางแผนและศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ดีเสียก่อน ทั้งๆ ที่เป็นงานที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ แต่อยู่ๆ ก็ขอให้สภาอนุมัติในระยะกระชั้นชิด และไม่เคยมีการปรึกษาหารือมาก่อน ถือเป็นการโยนความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารมาให้สภาเป็นผู้รับผิดชอบ
ประกอบกับเงินสะสมของ อบจ.ที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้มีจำนวน 7.3 ล้านบาทเท่านั้น หากมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ภัยธรรมชาติต่างๆ จะเอาเงินที่ไหนมาช่วยเหลือประชาชน เห็นด้วยกับการส่งเสริมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและการส่งเสริมการศึกษา แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของฝ่ายบริหาร จากนั้นได้มีการขอมติญัตติใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ อำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ปรากฏว่า อนุมัติ 6 เสียง ไม่อนุมัติ 14 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง จึงทำให้ญัตติดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา
สำหรับงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรืออำเภอกระบุรี มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2551 ณ ลำน้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ ส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู ส่วนงานแข่งขันเรือยาวและส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอละอุ่น มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2551 ณ ลำน้ำละอุ่น ต.บางแก้ว
ส่วนญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมใช้จ่าย ในการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง อ.ละอุ่น จำนวน 2,136,340 บาท ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติให้ใช้เงินสะสมเช่นเดียวกัน ด้วยคะแนนเสียง อนุมัติ 3 เสียง ไม่อนุมัติ 13 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
นายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง กล่าวว่า ตนในฐานะฝ่ายบริหารได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และข้อเท็จจริงแล้ว ในเมื่องบประมาณปี 52 ยังไม่ผ่านสภา จำเป็นต้องใช้เงินสะสมของ อบจ.ที่มีมาใช้จ่ายก่อน ญัตติที่เข้าสู่สภาวันนี้ เป็นสิ่งที่สภาต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สุดแท้แล้วแต่สภาจะพิจารณา เพราะตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเมื่อสภามีมติไม่อนุมัติตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน คงไม่มีงบประมาณไปสนับสนุนงานประเพณีทั้งสองอำเภอได้ ขอให้หน่วยงานในท้องถิ่นดำเนินการไป
ส่วนงบสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวงที่เพิ่งรับโอนมานั้นมีผลกระทบต่อการศึกษาของเยาวชนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะค่าอาหารเสริม อาหารกลางวัน และอุปกรณ์การเรียนการสอน จึงอยากวิงวอนสมาชิกอย่าเล่นเกมการเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง ได้มีการประชุมสภา อบจ.ระนอง สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2551 ญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมของ อบจ.ระนอง เพื่อดำเนินโครงการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ อำเภอกระบุรี จำนวน 800,000 บาท และโครงการจัดงานแข่งขันเรือยาวและสิ่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอละอุ่น ประจำปี 2551 จำนวน 800,000 บาท และญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมใช้จ่ายในการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง อ.ละอุ่น จำนวน 2,136,340 บาท ตามที่นายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง เป็นผู้เสนอญัตติ โดยมีนายสมควร ทองสุกใส ประธานสภา อบจ.เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีสมาชิกลงชื่อเข้าร่วมประชุม จำนวน 21 คน จากทั้งหมด 24 คน
หลังจากที่ นายนภา ได้แถลงญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสม สนับสนุนการแข่งขันเรือยาวของทั้งสองอำเภอ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดระนอง ที่มีมาเกือบร้อยปีแล้ว และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่ง อบจ.ระนอง ได้สนับสนุนมาเป็นประจำทุกปี และการจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง ที่ อบจ.รับโอนมาจาก ตชด. แต่เนื่องจาก อบจ.ระนอง ยังไม่สามารถประกาศใช้ข้อบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ได้ทัน จึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติต่อสภาในการใช้จ่ายเงินสะสมจำนวนดังกล่าว
จากนั้นสมาชิกสภา ได้ลุกขึ้นอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง มีทั้งที่สนับสนุนและคัดค้าน โดยเฉพาะสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยได้อภิปราย ติติงฝ่ายบริหารและข้าราชการประจำที่ทำงานล่าช้า ไม่มีการวางแผนและศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ดีเสียก่อน ทั้งๆ ที่เป็นงานที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ แต่อยู่ๆ ก็ขอให้สภาอนุมัติในระยะกระชั้นชิด และไม่เคยมีการปรึกษาหารือมาก่อน ถือเป็นการโยนความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารมาให้สภาเป็นผู้รับผิดชอบ
ประกอบกับเงินสะสมของ อบจ.ที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้มีจำนวน 7.3 ล้านบาทเท่านั้น หากมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ภัยธรรมชาติต่างๆ จะเอาเงินที่ไหนมาช่วยเหลือประชาชน เห็นด้วยกับการส่งเสริมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและการส่งเสริมการศึกษา แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของฝ่ายบริหาร จากนั้นได้มีการขอมติญัตติใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ อำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ปรากฏว่า อนุมัติ 6 เสียง ไม่อนุมัติ 14 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง จึงทำให้ญัตติดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา
สำหรับงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรืออำเภอกระบุรี มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2551 ณ ลำน้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ ส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู ส่วนงานแข่งขันเรือยาวและส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอละอุ่น มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2551 ณ ลำน้ำละอุ่น ต.บางแก้ว
ส่วนญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมใช้จ่าย ในการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวง อ.ละอุ่น จำนวน 2,136,340 บาท ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติให้ใช้เงินสะสมเช่นเดียวกัน ด้วยคะแนนเสียง อนุมัติ 3 เสียง ไม่อนุมัติ 13 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
นายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง กล่าวว่า ตนในฐานะฝ่ายบริหารได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และข้อเท็จจริงแล้ว ในเมื่องบประมาณปี 52 ยังไม่ผ่านสภา จำเป็นต้องใช้เงินสะสมของ อบจ.ที่มีมาใช้จ่ายก่อน ญัตติที่เข้าสู่สภาวันนี้ เป็นสิ่งที่สภาต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สุดแท้แล้วแต่สภาจะพิจารณา เพราะตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเมื่อสภามีมติไม่อนุมัติตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน คงไม่มีงบประมาณไปสนับสนุนงานประเพณีทั้งสองอำเภอได้ ขอให้หน่วยงานในท้องถิ่นดำเนินการไป
ส่วนงบสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียน ตชด.บ้านในวงที่เพิ่งรับโอนมานั้นมีผลกระทบต่อการศึกษาของเยาวชนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะค่าอาหารเสริม อาหารกลางวัน และอุปกรณ์การเรียนการสอน จึงอยากวิงวอนสมาชิกอย่าเล่นเกมการเมือง
